
TNL อวดกำไร Q1 โต 25% แตะ 126 ล้านบาท รับรายได้ 3 ธุรกิจหลักแกร่ง
TNL รายงานกำไตร 1/68 เติบโต 25% แตะ 126 ล้านบาท หลัง 3 ธุรกิจหลัก สินเชื่อ OAM และ อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เติบโตแข็งแกร่ง ย้ำเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างมั่นคง
นายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL บริษัทในเครือสหพัฒน์ฯ และบีทีเอส กรุ๊ปฯ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 291 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 ล้านบาท หรือ 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิรวม 126 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยเป็นการเปรียบเทียบกำไรสุทธิ ที่ไม่รวมผลประกอบการจากธุรกิจสิ่งทอเดิม หรือ TNLX ซึ่งได้ยกเลิกและขายธุรกิจออกไปในเดือนกรกฎาคม 2567 อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน ซึ่งยังรวมผลการดำเนินงานของ TNLX ไว้ กำไรสุทธิของบริษัทฯ ยังคงเติบโตได้จากปีก่อน
ทั้งนี้ ที่สำคัญบริษัทฯ ยังสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ได้ในระดับสูงที่ 43% สะท้อนศักยภาพในการบริหารธุรกิจหลักทั้ง 3 ด้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน นอกจากนี้ อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ (Cost-to-Income Ratio) ยังปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 23% ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความสามารถในการส่งมอบผลตอบแทนอย่างมั่นคง ให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง
“แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายของเศรษฐกิจและตลาดที่ยังเปราะบาง แต่บริษัทยังคงสามารถสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในอัตราที่น่าพึงพอใจ จากทั้ง 3 ธุรกิจหลัก ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 126 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่งที่ 25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ยังคงสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ได้ในระดับสูงถึง 43% ตอกย้ำประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยบริษัทฯจะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์การเติบโตอย่างรอบคอบและการบริหารทางการเงินอย่างมีวินัย เพื่อส่งมอบผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย” นายกิตติชัย กล่าว
นายกิตติชัย ยังได้โฟกัสขยายความถึงผลการดำเนินงานของ 3 ธุรกิจหลัก ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 1. ธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกัน (Oxygen Asset หรือ OXA) บริษัทฯ ได้ขยายพอร์ตสินเชื่อจาก 6,430 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เป็น 6,845 ล้านบาทในไตรมาสนี้ โดยเป็นการเติบโตภายใต้การบริหารคุณภาพสินทรัพย์ (Asset Quality) และคุณภาพสินเชื่อ (Credit Quality) อย่างมีวินัย ภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด โดยในไตรมาสนี้ OXA มีรายได้ดอกเบี้ย 149 ล้านบาท โดยรายได้บางส่วนลดลงจากแนวทางการบันทึกบัญชีอย่างระมัดระวัง และการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่เพียงพอจากปีก่อน
2.ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินด้อยคุณภาพ (Oxygen Asset Management หรือ OAM) โดยบริษัทฯ บริหารพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพรวมกว่า 6,148 ล้านบาท มุ่งเน้นพอร์ตลูกค้าธุรกิจ (Corporate NPLs) ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างมูลค่าในระยะยาว ในไตรมาสนี้ OAM มีรายได้ดอกเบี้ยรวม 41 ล้านบาท สะท้อนการเติบโตของฐานทรัพย์ภายใต้การบริหารอย่างต่อเนื่อง
3.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย (TNL Alliance หรือ TNLA) บริษัทฯ มีรายได้จากการกำกับดูแลโครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวน 83 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานใน 7 โครงการ ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรหลักอย่าง NOBLE สะท้อนขีดความสามารถในการบริหารโครงการและควบคุมความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
นายกิตติชัยกล่าวย้ำว่า เพื่อรองรับสภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน บริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์การเติบโตอย่างรอบคอบ โดยเน้นการรักษาคุณภาพสินทรัพย์และการเติบโตอย่างคัดสรร ในธุรกิจหลัก พร้อมกันนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ ได้เปิดตัวบริษัท Oxygen Advisory ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจใหม่ ด้านที่ปรึกษาทางการเงิน โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์เข้าร่วมเสริมความแข็งแกร่ง ให้แก่แพลตฟอร์มของบริษัทฯ โดย บริษัทฯ มองเห็นโอกาสการเติบโต ในธุรกิจที่ปรึกษาด้านทรัพย์สินด้อยคุณภาพ ซึ่งยังคงเป็นตลาดที่มีแนวโน้มธุรกิจดีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งกลไกขับเคลื่อนการเติบโตในระยะถัดไป