ตลท.จี้ K เคลียร์ปมบอร์ดเบรกแจก “ปันผล” ประจำปี 67 สวนมติผู้ถือหุ้น

ตลาดหลักทรัพย์ฯขอให้ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ. จำกัด (มหาชน) หรือ K ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติงดจ่ายเงินปันผล ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นให้จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท รวมถึงการแก้ไขงบการเงินไตรมาลที่ 1 ปี 2568 ที่มีผลให้เปลี่ยนแปลงจากกำไรสะสมเป็นขาดทุนละสม กรณีดังกล่าวถือว่ามีสาระสำคัญที่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุน

โดยขอให้คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจจสอบชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 และขอให้ผู้ลงทนศึกษาข้อมูลของบริษัทด้วยความระมัดระวังรอบคอบก่อนตัดสินโจลงทุนและติดตามคำชี้แจงของบริษัทรวมถึงเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 มิถุนายน 2568

ตามที่คณะกรรมการ บริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 มีมติเรียกประชมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติงดจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นให้จำยเงินปันผลในอัตราหันละ 0.03 บาท เนื่องจากบริษัทซื้อหุ้นคืนเกินวงเงินกำไรสะสมทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ โดยจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนมัติการงดจ่ายเงินปันผลังกล่าวในวันที่ 30 มิถุนายน 2568

นอกจากนี้ ในวันนี้บริษัทได้นำส่งงบการเงินไตรมาลที่ 1 ปี 2568 ฉบับแก้ไข ซึ่งปรากฎผลขาดทุนสะสมตามงบเฉพาะกิจการ 10 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงจากงบการเงินที่นำส่งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่มีผลกำไรสะสมตามงบเฉพาะกิจการ 16 ล้านบาท (รายละเอียดตามข่าว SETSMART วันที่ 29 เมษายน 2568, 13, 16 และ 19 พฤษภาคม 2568)

สำหรับการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลและการแก้ไขงบการเงินข้างต้นถือเป็นข้อมูลสำคัญที่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้คณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ดังนี้

1.ผลกระทบต่อผู้ลงทุนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการจำยเงินปันผล วันที่คณะกรรมการทราบว่า จะไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ ข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจ รวมทั้งสาเหตุที่มีการซื้อหุ้นคืนเกินวงเงินกำไรสะสมซึ่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้

2.ผลกระทบต่อผู้ลงทุนจากการแก้ไขงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ที่เกิดจากการกันกำไรสะสมเป็นสำรองหุ้นทุนซื้อคืน จนเป็นเหตุให้มีผลเปลี่ยนแปลงจากกำไรสะสมเป็นขาดทุนสะสม

3.การดำเนินการต่อเหตุการณ์ข้างต้น เช่น การตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น และมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ในอนาคต