FVC โชว์งบ Q1 โต 106% เดินเกมรุกต่อยอด 3 กลุ่มธุรกิจ ดันรายได้ทั้งปีเข้าเป้า 25%

FVC รายงานงบไตรมาส 1/68 แตะ 18 ล้านบาท โต 106% รับรายได้ขายและบริการเพิ่ม กางแผนปี 68 เดินหน้าต่อยอดธุรกิจ พร้อมรุกขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเดิม หนุนเป้ารายได้เติบโต 25%


ดร.วิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 18.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.62% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ 278.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.31% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยมีปัจจัยการเติบโตจากกลุ่มธุรกิจ 1.กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) มีรายได้ 23.12 ล้านบาท 2.กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) มีรายได้อยู่ที่ 86.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.98% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากลูกค้าหลัก อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากกำลังซื้อของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในปีนี้กลุ่มลูกค้าขนาดกลางและขนาดเล็กกลับมาทำสัญญางานบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) มากขึ้น

และ 3.กลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) มีรายได้อยู่ที่ 169.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.49% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีการเติบโตของรายได้จากกลุ่มธุรกิจการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่ 140.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.62% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน, กลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบบำบัดน้ำเสีย สถานพยาบาล ฟอกเลือดด้วยเครื่อง

ไตเทียมและการบำรุงรักษาระบบที่ 23.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.59% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มธุรกิจการให้บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่งสิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ที่ 5 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2568 ทาง FVC วางกลยุทธ์โดยมีทิศทางธุรกิจ แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) ที่บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม ตามสภาวะการแข่งขันในตลาดรุนแรง รวมทั้งต้นทุนได้ปรับตัวสูงขึ้นจากสงครามการค้าระหว่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้านอกจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเน้นจังหวัดที่มีประชากรสูง และมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ พร้อมเพิ่มทีมขายเพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม

อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีแผนคัดสรรหรือสร้างสินค้าเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ สำหรับกลุ่มงานโครงการถึงแม้ว่าจะเกิดความล่าช้าของงานโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการประจำปี 2567 ที่ผ่านมา ทำให้ในปี 2568 บริษัทฯ มีแผนทำงานด้านโครงการคู่ขนานกัน และมุ่งเน้นรับงานโครงการขนาดเล็กที่ทำงานเสร็จได้เร็ว เพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงและรับงานโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาดำเนินโครงการนานเพื่อเป็นรายได้ในปีถัดไป

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้างานโครงการ งานติดตั้งขนาดเล็กและงานบริการ และสัญญาซ่อมบำรุงรวมจำนวน 16 งาน มูลค่ารวม 6.66 ล้านบาท แบ่งเป็นงานโครงการจำนวน 3 งาน จำนวน 1.06 ล้านบาท ที่คาดว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จและรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/2568, งานติดตั้งขนาดเล็กและงานบริการทั้งหมด 6 งาน จำนวน 5 ล้านบาท ส่วนที่เหลือคืองานซ่อมบำรุงที่เป็นสัญญาต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มสัญญาในไตรมาส 4/2567 และจะครบกำหนดในไตรมาส 4/2568

สำหรับกลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) มองว่าสถานการณ์ตลาดลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารและธุรกิจโรงแรมกลับมาดำเนินธุรกิจในสภาวะปกติ โดยมีแบรนด์ของร้านอาหารหรือเครื่องดื่มใหม่ๆ ทั้งที่เป็นการขยายกิจการจากผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ เดิมหรือเป็นผู้ประกอบการใหม่ๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นบริษัทฯ จึงมุ่งเน้นที่กลุ่มลูกค้าร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยได้เข้าไปมีส่วนการออกแบบคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของลูกค้าเพื่อให้ลูกค้านำผลผลิตที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ที่ได้ไปประกอบอาหารและเครื่องดื่มมีคุณภาพ เพื่อทำให้ผู้บริโภคพอใจ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ประกอบการที่มีความต้องการน้ำกรองคุณภาพเฉพาะทาง สำหรับอุปกรณ์ผลิตอาหารและเครื่องดื่มแต่ละชนิด เพื่อให้ได้อาหารและเครื่องดื่มคุณภาพเยี่ยมสำหรับลูกค้า พร้อมทั้ง ยังคงมุ่งเน้นรักษามาตรฐานบริการหลังการขายแบบ Total Solutions Provider ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและเป็นฐานรายได้ที่มั่นคงในอนาคต

ส่วนกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) โดยบริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มีแผนสำหรับการขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในไตรมาสที่ 2/2568 และเตรียมขยายสาขาเพิ่ม 1-2 สาขา และเครื่องไตเทียมประมาณ 6-24 เครื่อง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ต้องมีการพิจารณาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย

ด้าน บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด  มีแผนเพิ่มเครื่องไตเทียมในไตรมาส 2/2568 จำนวน 2-4 เครื่อง ขณะที่ บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากงานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าเป็น

ที่เรียบร้อยแล้ว 5 โครงการ มูลค่ารวม 5.25 ล้านบาท, งานปรับปรุงหน่วยไตเทียม 2 โครงการ มูลค่า 2.13 ล้านบาท โดยคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2568 และ บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด(บริษัทย่อย) โดยในปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 1 โครงการ มูลค่ารวม 5.48 ล้านบาท โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตั้ง คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายใน

ไตรมาส 2/2568 และจากกลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้รายได้รวมของ FVC ในปี 2568 เติบโต 25% ตามแผนที่วางไว้

Back to top button