
“พิชัย” ถกญี่ปุ่น หนุนความร่วมมือเศรษฐกิจ พร้อมชักชวนลงทุนเพิ่มในไทย
ไทย-ญี่ปุ่นหารือกระชับความร่วมมือเศรษฐกิจ เชิญลงทุนยานยนต์-เทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมถกรับมือสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้า หวังไทยร่วมซัพพลายเชนเซมิคอนดักเตอร์ญี่ปุ่น
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมการหารือทวิภาคีกับนายมิยาจิ ทาคูมะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นในช่วงการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค (APEC Ministers Responsible for Trade Meeting) ณ จังหวัดเชจู สาธารณรัฐเกาหลี โดยได้หารือแนวทางความร่วมมือและการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับญี่ปุ่น พร้อมทั้งเชิญชวนญี่ปุ่นลงทุนในไทย
นายพิชัย กล่าวว่า ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดและเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย โดยญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าลำดับ 3 และเป็นนักลงทุนสะสมลำดับ 1 ของไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน และการหารือในวันนี้ ตนได้เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มเติม ทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตทั้งยานยนต์สันดาปและยานยนต์ยุคใหม่ให้กับญี่ปุ่น และในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ญี่ปุ่นมีศักยภาพ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ AI แผงวงจรพิมพ์ (PCB) และเทคโนโลยีขั้นสูง
พร้อมกันนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นยังได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้มีการปรับปรุงกฎระเบียบด้านการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติในไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของญี่ปุ่น พร้อมทั้งยืนยันที่จะสนับสนุนความร่วมมือระหว่างสองประเทศในมิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีชาวญี่ปุ่นพำนักอยู่ในประเทศไทยกว่า 70,000 คน และมีบริษัทญี่ปุ่นดำเนินธุรกิจในไทยมากกว่า 6,000 บริษัท
นายพิชัยเสริมว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงประเด็นมาตรการขึ้นภาษีนำเข้า (reciprocal tariff) ของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อประเทศคู่ค้า โดยญี่ปุ่นจะถูกขึ้นภาษีในอัตรา 24% ส่วนไทยจะถูกขึ้นภาษีในอัตรา 36% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูง ในการนี้ ญี่ปุ่นได้มีการเจรจากับสหรัฐอเมริกาแล้วรวม 2 ครั้ง โดยคาดหวังว่าจะสามารถหาข้อยุติร่วมกันได้และเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ขณะที่ไทยได้มีการจัดทำข้อเสนอส่งให้สหรัฐอเมริกาแล้ว เพื่อยืนยันถึงความตั้งใจของไทยในการรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าและแก้ไขประเด็นทางการค้าในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจมีต่อผู้ประกอบการและนักลงทุนของทั้งสองประเทศ
ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีนายพิชัยได้หารือกับ Mr. HAYASHI Yoshimasa, Chief Cabinet Secretary และ Mr.Taro KONO สส .จังหวัดคานางาวะ อดีตรัฐมนตรีดิจิทัลของญี่ปุ่น ซึ่งทั้งคู่เป็นนักการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในญี่ปุ่น ในประเด็นความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมใหม่ ที่ญี่ปุ่นกำลังจะมีการลงทุนเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) ซึ่งไทยต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่นด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2567 ไทยและญี่ปุ่นมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 52,020.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปญี่ปุ่น 23,285.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไก่แปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ เครื่องจักรและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ และไทยนำเข้าจากญี่ปุ่น 28,734.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และแผงวงจรไฟฟ้า