“จีน-อาเซียน” เร่งเครื่องความร่วมมือยุทธศาสตร์ สู่อนาคตยั่งยืน

นายกฯ จีน "หลี่เฉียง" หนุนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล–สีเขียว จับมือมาเลเซียก้าวสู่ "50 ปีทอง" พร้อมเสริมพลังร่วม GCC-อาเซียน หนุน Global South ด้านอาเซียนรับรอง "ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์" วางวิสัยทัศน์ 2045 สู่ภูมิภาคแห่งโอกาสและความยั่งยืน


นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงความพร้อมของจีนในการทำงานร่วมกับมาเลเซียเพื่อยกระดับความร่วมมือทวิภาคีเข้าสู่ “50 ปีทอง” รอบใหม่ โดยเน้นหลักการเคารพและไว้วางใจซึ่งกันและกัน ความเท่าเทียม และผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยระบุระหว่างการพบปะกับดาโต๊ะสรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

นายหลี่เฉียงกล่าวเพิ่มเติมว่า จีนและมาเลเซียควรเร่งขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนในสาขาที่ทันสมัย อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์สู่มิติใหม่

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจีนยังแสดงวิสัยทัศน์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ในวงกว้าง โดยให้ความสำคัญกับความร่วมมือในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะระหว่างจีน กลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เพื่อร่วมกันส่งเสริมสันติภาพ ความมั่งคั่ง และเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย พร้อมเน้นย้ำบทบาทเชิงบวกของจีนในการผลักดันผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาในกลุ่ม Global South

ในโอกาสเดียวกัน ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ได้ประกาศรับรอง “ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045” ซึ่งเป็นเอกสารวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ระยะ 20 ปี โดยกำหนดแนวทางขับเคลื่อนภูมิภาคบนพื้นฐานของความยั่งยืน ครอบคลุม และการบูรณาการเชิงประชาชนเป็นศูนย์กลาง

นายอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะผู้นำเจ้าภาพ ได้เน้นย้ำว่า วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2045 (ASEAN Community Vision 2045 – ACV 2045) จะเป็นกรอบนำทางที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมศักยภาพของพลเมืองในทุกระดับ โดยมีแผนยุทธศาสตร์รองรับ 4 เสาหลัก ได้แก่ การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และการเชื่อมโยงภูมิภาค

นายเกา กึม ฮวน เลขาธิการอาเซียน กล่าวเสริมว่า วิสัยทัศน์ฉบับนี้เป็นพิมพ์เขียวที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสำคัญของโลก เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ภัยพิบัติด้านภูมิอากาศ และความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ให้ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก

แถลงการณ์ของมาเลเซียยังระบุว่า วิสัยทัศน์ 2045 จะส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าข้ามพรมแดน เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสนับสนุนระบบการเงินเพื่อการบริหารจัดการภัยพิบัติ และความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า

ทั้งนี้ มาเลเซียจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2025 ภายใต้ธีม “Inclusivity and Sustainability” โดยมุ่งหมายสร้างอาเซียนให้เป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก พร้อมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและระบบธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง

Back to top button