
VGI เปิดงบปี 68 พลิกกำไร 501 ล้านบาท รับสื่อโฆษณา-ส่วนแบ่งร่วมค้าพุ่ง
VGI รายงานผลประกอบการปี 68/67 พลิกมีกำไร 501.23 ล้านบาท รับรายได้ธุรกิจสื่อโฆษณาบริการด้านดิจิทัล ขณะเดียวกันบริหารต้นทุนดี ค่าใช้จ่ายลด 18% พร้อมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม JMART
บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 68 (สิ้นสุด 31 มี.ค.68) พลิกมีผลกำไร ดังนี้
ทั้งนี้ ในปี 68/67 บริษัทฯ พลิกมีกำไร 501.23 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุนสุทธิ 3,488.77 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากบริษัทมีรายได้จากการให้บริการและการขายอยู่ที่ 5,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.40% จากปีก่อน โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากการเติบโตของธุรกิจสื่อโฆษณาและธุรกิจบริการด้านดิจิทัล ในขณะที่ธุรกิจการจัดจำหน่ายมีรายได้ใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในปีนี้ ธุรกิจสื่อโฆษณาสัดส่วนรายได้ 46.3% ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล 31.50% และธุรกิจการจัดจำหน่าย 22.20% ของรายได้จากการให้บริการและการขายตามลำดับ
ธุรกิจสื่อโฆษณามีรายได้อยู่ที่ 2,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.70 จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสื่อโฆษณาทุกประเภท โดยเฉพาะสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน โดยมีอัตราการใช้สื่ออยู่ที่ 52% เพิ่มขึ้นจาก 48% ในปีก่อนหน้า
ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้จำนวน 1,646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.60% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจาก RCash มีรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น ตามการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น RCard มีรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้บัตรและรายได้จากการขายบัตรแรบบิทที่สูงขึ้น และ RCare มีรายได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันภัยเพิ่มขึ้น แต่การเพิ่มขึ้นดังกล่าวถูกหักกลบด้วยรายได้ lead generation ที่ลดลง
ขณะที่ ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารอยู่ที่ 2,072 ล้านบาท ลดลง 17.90% จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการลดค่าใช้จ่ายการตลาดของกลุ่มแรบบิท และการลดลงของการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น รวมถึงไม่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่เกิดขึ้นประจำ เช่น ค่าวิชาชีพทนายความที่เกิดขึ้นในปี 2566/67 ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 39.70% จาก 52.40% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมค้าและบริษัทร่วมอยู่ที่ 229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.10 จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX เหมือนในปีก่อนหน้า และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ JMART จากที่กล่าวมาทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิที่ 501 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในปีก่อน มีอัตรากำไรสุทธิ 9.60% โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 114.40% เมื่อเทียบกับปีก่อน