“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ เซ่นข่าวสหรัฐจ่อรีดภาษี “เหล็ก-อะลูมิเนียม” 50%

ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ เผชิญความไม่แน่นอนเทรดวอร์ หลังโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาจีนละเมิดข้อตกลงการค้า พร้อมข่าวเตรียมเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50%


ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบในวันนี้ (2 มิ.ย.68) หลังเผชิญความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า โดยดัชนี นิกเกอิต ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,461.33 จุด ลดลง 503.77 จุด หรือ -1.33%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,997.31 จุด ลดลง 292.46 จุด หรือ -1.26%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ระดับ 2702.29 จุด บวก 4.62 จุด หรือ +0.17% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 8627.10 จุด ลบ 33.20 จุด หรือ -0.38% ขณะที่ ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลแข่งเรือมังกร

โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วิจารณ์จีนผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social กล่าวหาจีนละเมิดข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ พร้อมแสดงท่าทีแข็งกร้าว อย่างไรก็ดี ตลาดพลิกกลับขึ้นได้บางส่วนหลังจากทรัมป์ให้สัมภาษณ์ในช่วงบ่ายว่า จะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้งด้านการค้า

ขณะที่ สหรัฐฯ เตรียมเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศแผนดังกล่าวในวันศุกร์ 30 พ.ค. ในระหว่างการปราศรัยที่โรงงานเหล็กของบริษัทยูเอส สตีล (US Steel) ในเมืองมอน วัลเลย์ รัฐเพนซิลเวเนีย

ทรัมป์ ระบุว่า การขึ้นภาษีนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยกล่าวว่า มาตรการใหม่นี้จะช่วยรักษาความมั่นคงให้อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ และยังเสริมอีกว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นจะครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมด้วย โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังได้ชูข้อตกลงระหว่างบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) และยูเอส สตีล (US Steel) มูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเขามองว่าจะช่วยรักษาตำแหน่งงานของแรงงานในสหรัฐฯ ได้

หุ้นของบริษัทคลีฟแลนด์-คลิฟส์ (Cleveland-Cliffs Inc) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ พุ่งขึ้นถึง 26% หลังจากตลาดปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่ามาตรการภาษีใหม่จะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัท

ทรัมป์ประกาศนโยบายนี้ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเขากล่าวหาว่าจีนละเมิดข้อตกลงกับสหรัฐฯ ในการลดภาษีและข้อจำกัดทางการค้าสำหรับแร่ธาตุสำคัญ ซึ่งเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ถือเป็นผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก (ยกเว้นสหภาพยุโรป) โดยในปี 2567 มีปริมาณนำเข้าเหล็กถึง 26.2 ล้านตัน ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่าภาษีใหม่นี้จะกระทบราคาในตลาดเหล็กโดยรวม และจะกระทบต่อทั้งอุตสาหกรรมและผู้บริโภคในประเทศ

ขณะที่ สหภาพยุโรปออกแถลงการณ์ในวันเสาร์แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อการตัดสินใจของทรัมป์ในการเพิ่มภาษีเหล็ก โดยระบุว่ามาตรการดังกล่าวบั่นทอนความพยายามในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าอย่างสันติ พร้อมระบุว่า บรัสเซลส์เตรียมตอบโต้ด้วยมาตรการตอบแทนที่อาจตามมาในไม่ช้า

Back to top button