
เปิด 20 อันดับหุ้นถูก “Cover-Short” สูงสุด ณ 4 มิ.ย.68
ข้อมูลสิ้นสุด 4 มิ.ย.68 TTB มีปริมาณชอร์ตคงค้างเหลือมากสุด 765 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.79% และถูก Short Sales สูงสุด 45.23 ล้านบาท ขณะที่ BEM มีมูลค่าการปิดสถานะชอร์ตด้วยการซื้อคืนสูงสุด 442 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงการเปิดเผยข้อมูลของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Positions) ณ วันที่ 4 มิ.ย.68 โดยพบว่ามีหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (รวม NDVR) จำนวนทั้งหมด 211 หลักทรัพย์ โดยหุ้นที่คงสถานะขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย
1.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB จำนวน 765,976,654 หุ้น หรือคิดเป็น 0.79% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
2.บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จำนวน 290,875,791 หุ้น หรือคิดเป็น 1.42% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
3.บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO จำนวน 255,379,821 หุ้น หรือคิดเป็น 1.94% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
4.บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC จำนวน 198,955,688 หุ้น หรือคิดเป็น 0.62% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
5.บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จำนวน 149,162,108 หุ้น หรือคิดเป็น 1.00% ของหุ้นที่ชำระแล้ว
ทั้งนี้ จาก 20 อันดับในตารางดังกล่าว พบ 4 หุ้นที่ถูก Cover Short สูงสุดเกิน 10 ล้านหุ้น ได้แก่
1.บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM จำนวน 82,687,192 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 5.35 บาท คิดเป็นมูลค่า 442,376,477 บาท
2.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จำนวน 23,708,800 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 29.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 699,409,600 บาท
3.บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI จำนวน 11,055,200 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 1.32 บาท คิดเป็นมูลค่า 14,592,864 บาท
4.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB จำนวน 13,577,500 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 21.60 บาท คิดเป็นมูลค่า 293,274,000 บาท
ขณะเดียวกัน จาก 20 อันดับในตารางดังกล่าว พบ 1 หุ้นที่ถูก Short Sales สูงสุดเกิน 10 ล้านหุ้น ได้แก่
1.TTB จำนวน 23,682,800 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ระดับ 1.91 บาท คิดเป็นมูลค่า 45,234,148 บาท