WTI ปิดบวก 2% รับจ้างงาน “สหรัฐ” ดีกว่าคาด หนุนเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้น

ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ปรับขึ้นในรอบสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ รับแรงหนุนจากข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ และความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ–จีน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 2568 และปิดบวกในสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาด และความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งช่วยเสริมความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 1.91% ปิดที่ 64.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปรับขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.73% ปิดที่ 66.47 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยทั้งสองสัญญาปรับขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ หลังจากลดลงติดต่อกันสองสัปดาห์ โดย WTI เพิ่มขึ้น 4.9% และเบรนท์เพิ่มขึ้น 2.75%

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าอัตราว่างงานในเดือนพฤษภาคมคงที่ที่ระดับ 4.2% ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่ง แม้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปีก่อน แต่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ถดถอยอย่างรุนแรง ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน

ด้านสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเจรจาระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เกิดขึ้นตามคำร้องขอจากฝ่ายอเมริกัน โดยทรัมป์ระบุว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปในเชิงบวก และสหรัฐฯ อยู่ในสถานะที่ดีในการเจรจากับจีน ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นต่อตลาดพลังงาน

ขณะเดียวกัน กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปกพลัส) ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ได้มีมติคงแผนการเพิ่มกำลังการผลิตที่ 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม โดยปฏิเสธข้อเสนอของซาอุดีอาระเบียที่ต้องการเพิ่มมากกว่านั้น เพื่อลดแรงกดดันด้านราคาและปกป้องส่วนแบ่งตลาด

รายงานจากธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) คาดว่า ตลาดน้ำมันจะเข้าสู่ภาวะสมดุลในไตรมาส 2 และ 3 จากอุปสงค์ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส

ขณะเดียวกัน บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ส เปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นดัชนีชี้นำการผลิตในอนาคต ลดลง 4 แท่น เหลือ 559 แท่นในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 มิถุนายน ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 โดยในจำนวนนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันลดลง 9 แท่น เหลือ 442 แท่น ส่วนแท่นขุดเจาะก๊าซเพิ่มขึ้น 5 แท่น เป็น 114 แท่น สะท้อนภาพรวมการลงทุนในภาคพลังงานที่ยังระมัดระวัง

Back to top button