“กสทช.-NT” พร้อมช่วยบริษัทไทย หลัง “กัมพูชา” ตัดเคเบิล 2 เส้นทาง ทำสื่อสารสะดุด

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (13 มิ.ย.68) นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับพร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อาจเกี่ยวข้องบริเวณชายแดน ซึ่งกรณีรัฐบาลกัมพูชาจะจัดหาอินเทอร์เน็ตเองต่อไป หากผู้ประกอบการโทรคมนาคมจะมีการเชื่อมต่อสัญญาณไปยังกัมพูชาจะต้องมีการให้รายละเอียดธุรกิจและบริการ เพื่อให้สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบเข้มข้นขึ้น เป็นเรื่องดีในการตรวจสอบการใช้โครงข่ายในต่างประเทศ และน่าส่งผลดีต่อปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้มีปริมาณลดลง

ทั้งนี้ ได้รับรายงานในบางพื้นที่มีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนจากฝั่งกัมพูชาแล้ว ซึ่งปัจจุบันผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีโครงข่ายเป็นของตนเองที่มีจุดเชื่อมต่อออกต่างประเทศบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา มีทั้งสิ้น 14 บริษัท ได้แก่

1.บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT 2. บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด, 3. บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

4.บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด 5. บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด, 6. บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT, 7. บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เกทเวย์ จำกัด

8.บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด, 9. บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด 10. บริษัท ที.ซี.ซี.เทคโนโลยี จำกัด 11. บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL, 12. บริษัท แอล ดับเบิ้ลยู ที เอ็น จำกัด, 13. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ 14. บริษัท เคิร์ซ จำกัด

อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรอนโยบายจากรัฐบาลไทยว่าจะให้ดำเนินการในเรื่องใด โดยในส่วนของผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่มีการขออนุญาตใช้โครงข่ายระหว่างประเทศ คือ การเช่าวงจรสื่อสารระหว่างประเทศความเร็วสูง เพื่อเชื่อมต่อระหว่างสาขาในไทยและต่างประเทศ หรือ International Private Leased Circuit (IPLC) เช่น ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจสินค้าและบริการของไทยที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ซึ่งก็สามารถขอใช้บริการกับผู้ให้บริการในกัมพูชาได้

ด้าน พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า หลังประเทศกัมพูชาประกาศตัดอินเทอร์เน็ตเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา พบว่าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 มิ.ย. ทั้งนี้ การให้บริการอินเทอร์เน็ต ไปยังกัมพูชา มีคุณภาพสัญญาณลดลง

ขณะที่จากการตรวจสอบสายเคเบิลที่ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ถูดตัด 2 เส้นทาง คือ 1.เส้นทางอรัญประเทศ และ 2.เส้นทางจากเกาะกูดไปยังกัมพูชา ส่งผลให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตสองเส้นทางดังกล่าวใช้งานไม่ได้

“การถูกตัดสัญญาณสองเส้นทางดังกล่าว ส่งผลกับลูกค้าของ NT ที่เป็นบริษัทเอกชนของไทยที่เข้าไปประกอบธุรกิจในกัมพูชาในการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตเพื่อการทำธุรกิจ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้”