“อนุกลั่นกรอง” เตรียมชงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้าน ให้บอร์ดชุดใหญ่เคาะพรุ่งนี้!

รมช.คลัง เผย โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยอดรวมอยู่ 1.15 แสนล้านบาท จาก 1.57 แสนล้านบาท พร้อมเสนอบอร์ดกระตุ้นชุดใหญ่เคาะ 18 มิ.ย.นี้ เน้นย้ำการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบปกติ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอโครงการที่ผ่านคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งจะโอนงบประมาณจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) ซึ่งมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันพรุ่งนี้นั้น

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ได้พิจารณาคำของบประมาณภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งการประชุมแต่ละครั้งใช้เวลานานและพิจารณาอย่างละเอียด วางเกณฑ์และกรอบที่ยืนยันว่า เป็นการใช้เงินที่คุ้มค่า กระตุ้นเศรษฐกิจ มีการหมุนเวียน ไม่เป็นโครงการซ้ำซ้อนและที่มีความพร้อม โดยรายละเอียดพวกนี้ดูในเชิงลึกโดยทีมของ 3 หน่วยงานคือ กระทรวงการคลัง, สำนักงบประมาณ และ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

จากการพิจารณา คณะอนุกรรมการฯ ได้คัดเลือกโครงการที่มีมูลค่า รวม 115,000 ล้านบาท ใน 4 ด้าน ที่จะนำเสนอให้ บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณา โดยตัดโครงการมูลค่าต่ำกว่า 500,000 บาท ที่ต้องใช้วิธีจัดซื้อพิเศษออกไป ยืนยันว่า ทุกโครงการต้องผ่านการจัดซื้อจัดจ้างปกติตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง เพื่อป้องกันความสุ่มเสี่ยงในการรั่วไหลของงบประมาณ

สำหรับงบประมาณที่เหลือจาก 157,000 ล้าน โดยประมาณ 42,000 ล้านบาทนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า อาจจะมีการพิจารณาได้อีกรอบหนึ่ง ถ้ามีความจำเป็น ส่วนที่เหลือหากไม่ใช้ ก็จะดูว่าความเหมาะสมคืออะไร จะไปใช้ตรงไหน แต่คงจะไม่ใช่ลักษณะของโครงการลงทุน

เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ที่จะมีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นในครึ่งปีหลัง นายจุลพันธ์ กล่าวว่า บางส่วนถ้าใช้ไม่หมด อาจไม่ได้ลงเป็นลักษณะของการกระตุ้น เพราะว่าโดยความพร้อมของการคัดสรรโครงการไม่ทัน การจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน ก็ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์เช่นเดียวกัน เช่น การลดหนี้สาธารณะ เป็นต้น  และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในกรอบเวลา 3 เดือนตามที่กำหนดจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2568

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มติ ครม. เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ได้เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท แทนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่

  1. โครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม
  2. การท่องเที่ยว
  3. การลดผลกระทบจากการส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ
  4. เศรษฐกิจชุมชน อาทิ กองทุนหมู่บ้าน (SML)

โดยมีเป้าหมายกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อรักษาการจ้างงานและเสริมสร้างรากฐานของเศรษฐกิจ โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง และรายการค่าใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

Back to top button