
“กัณฑรา” แนะสะสม GULF-KBANK พื้นฐานแกร่ง
กัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา แนะจังหวะสะสม GULF-KBANK พื้นฐานแข็งแกร่ง พร้อมมอง SET รีบาวด์ ชี้จับตาทิศทางการเมืองส่วนหุ้นเด่นเดือน มิ.ย. ได้แก่ CPALL, MTC, OSP และ STECON
นายกัณฑรา ลดาวัลย์ ณ อยุธยา กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (20 มิ.ย.68) ประเมินว่า SET Index รีบาวด์จากมุมมองสถานการณ์โดยรวมเริ่มมีแนวโน้มคลี่คลายลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาในขณะนี้ไม่ใช่เพียงแค่ประเด็นเรื่องภาษีการค้าสหรัฐอีกต่อไป แต่เป็นประเด็นทางการเมืองภายในประเทศที่เริ่มส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ ทิศทางการเมืองภายในประเทศ ฝ่ายนักวิเคราะห์ ขอเรียนว่า ไม่ได้มีจุดยืนฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่เป็นการวิเคราะห์ตามข้อมูลซึ่งมีมุมมองว่า หากจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่งบประมาณได้รับการอนุมัติแล้ว ลักษณะเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน ที่มีความพยายามผลักดันงบประมาณให้เรียบร้อยก่อนมีการปรับเปลี่ยนทางการเมือง ดังนั้น หากสถานการณ์ดำเนินไปในแนวทางเดียวกัน ก็อาจช่วยให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา
อย่างไรก็ตาม กรณีการอนุมัติงบประมาณนั้น ส่งผลต่อดัชนี SET Index อย่างมีนัยสำคัญหากงบประมาณไม่สามารถผ่านความเห็นชอบได้ทันเวลา จะส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจไทยช่วงต้นปีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจหยุดชะงัก
แต่หากในภายหลังสามารถผ่านงบประมาณได้ ก็อาจทำให้เกิดการเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐในช่วงปลายปี ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม การล่าช้าในช่วงต้นก็ยังคงสร้างแรงกดดันต่อภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ดี โดยภาวะปัจจุบัน ประเทศไทยมีความจำเป็นเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วน กลยุทธ์การลงทุน มองว่า ดัชนีได้ปรับตัวลงมาแล้ว ซึ่งในเชิงเทคนิคดัชนีอาจปรับตัวเด้งกลับ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก และหากสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าต่อของรัฐบาล หรือแม้แต่หากมีการยุบสภาในอนาคต ก็อาจช่วยให้ตลาดค่อยๆ ฟื้นตัวได้ และในเชิงเทคนิคมีโอกาสที่ดัชนี SET Index จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับบริเวณ 1,125 จุด
นอกจากนี้ อาจมีปัจจัยภายนอกเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติม ยกตัวอย่าง ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือแม้กระทั้งภาษีสหรัฐที่ประเทศไทยถูกเรียกเก็บ หากมีการทบทวนอัตราภาษีดังกล่าว หรือปรับเปลี่ยน เป็นเก็บน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ หรือมีอัตราใกล้กับประเทศอื่นๆ ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อตลาดได้
ส่วนหุ้นที่ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำเข้าลงทุน คือ หุ้นพื้นฐานแกร่ง ยกตัวอย่าง บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี หลายสำนักให้ราคาเป้าหมายที่ 56-58 บาท แต่ราคาปัจจุบันในกระดานอยู่ที่ 38 บาท ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าไม่เคยเห็นส่วนต่างระหว่างราคาปัจจัยพื้นฐานกับราคาในกระดานที่ห่างกันได้มากขนาดนี้ สถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ นักลงทุนระยะกลาง-ยาวที่จะกลับเข้ามาในตลาดหุ้น โดยไม่เพียงแค่ GULF ที่มีลักษณะเช่นนี้ ยังมีอีกหลายหุ้นในตลาดที่พื้นฐานไม่สอดคล้องกับราคา
หุ้นบางกลุ่มที่ในอดีตเคยซื้อขายกันบนค่า P/E ระดับสูง เช่น 30 เท่า แต่ในปัจจุบัน หุ้นเหล่านั้นบางตัวปรับตัวลงมามาก จนค่า P/E ลดเหลือเพียง 6-7 เท่า ในมุมมองของผม คิดว่ายังมีโอกาสที่หุ้นเหล่านี้จะกลับไปเทรดในระดับ P/E สูงได้อีกครั้ง หากความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมา
ขอยกตัวอย่าง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ที่เคยปรับตัวลงไปแตะระดับประมาณ 100 บาท เมื่อราว 1-2 ปีก่อน แต่ภายหลังสามารถกลับขึ้นไปแตะ 160-170 บาทได้ ก่อนจะปรับฐานลงมาอีกครั้ง นี่สะท้อนให้เห็นว่าราคาและค่า P/E ของหุ้นสามารถเคลื่อนไหวได้ตามภาวะตลาด และเมื่อใดที่นักลงทุนเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นโดยรวม ก็จะเริ่มเห็นการให้ค่า P/E ที่สูงขึ้นตามไปด้วย เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ค่า P/E ก็สะท้อนความเชื่อมั่น
สุดท้ายนี้ ยังแนะนำหุ้นประจำเดือน มิ.ย.68 อาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP และ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON เป็นทางเลือกนักลงทุน