TDRI เตือนดีลภาษี “ไทย-สหรัฐ” ต้องรอบคอบทุกมิติ หวั่นกระทบเกษตร-ยานยนต์

TDRI เตือนรัฐระวังเจรจาภาษีกับสหรัฐ หวั่นไทยเสียเปรียบ หากต้องเปิดตลาดให้สินค้านำเข้าไร้ภาษี เสี่ยงกระทบอุตสาหกรรม-เกษตรกรในประเทศ


นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยถึงประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ว่า ไทยจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในเรื่องอัตราภาษีนำเข้า-ส่งออก โดยเฉพาะหากมีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขที่อาจสร้างผลกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจในประเทศ

เขาระบุว่า หากไทยสามารถส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ในอัตราภาษีต่ำ ถือเป็นผลดีต่อการค้าระหว่างประเทศ แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่า เงื่อนไขที่ต้องยอมแลกนั้นคืออะไร โดยเฉพาะหากเกี่ยวข้องกับการเปิดตลาดในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์หรือเกษตรกรรม ที่อาจทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในประเทศเอง

กรณีของเวียดนามเป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงความเสี่ยงได้ชัดเจน สหรัฐฯ กำหนดภาษีสินค้าเวียดนามสูงถึง 20% แต่สินค้าจากสหรัฐกลับสามารถเข้าสู่ตลาดเวียดนามได้ในอัตราภาษี 0% ซึ่งเป็นรูปแบบการเปิดตลาดที่อาจไม่เป็นธรรมและกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ” นายนณริฏ กล่าว

เขายังตั้งข้อสังเกตว่า หากไทยต้องเปิดตลาดให้สหรัฐฯ แบบเสรีมากเกินไป เช่น ยกเว้นภาษีนำเข้ารถยนต์หรือสินค้าเกษตร ก็จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตในประเทศ ทั้งในมิติของมูลค่าภาษีที่รัฐจะสูญเสีย และโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมที่อาจถูกแทรกแซงจากสินค้านำเข้า

เราควรมองดีลการค้าแบบสองด้าน ไม่ใช่เพียงเห็นอัตราภาษีต่ำแล้วคิดว่าได้ประโยชน์อย่างเดียว ต้องพิจารณาด้วยว่าเราเสียอะไร และใครคือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในมิติของรายได้ภาษี และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

นายนณริฏ เน้นย้ำว่า นี่เป็นโจทย์สำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่ปล่อยให้กลไกรัฐเป็นฝ่ายตัดสินใจเพียงลำพัง โดยเสนอให้มีการใช้กลไกรัฐสภาและการระดมความคิดเห็นจากภาคเอกชนและประชาชน เพื่อกำหนดแนวทางการเจรจาที่สร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางการค้าและการปกป้องเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างยั่งยืน

Back to top button