
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ก.ค.68
ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนหลังทรัมป์ยืนยันไม่ขยายเส้นตายเก็บภาษี 1 ส.ค.นี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ ขณะที่หุ้นยุโรปบวกจากแรงหนุนหุ้นพลังงาน เงินปอนด์อ่อน หนุน FTSE สูงสุดรอบ 3 สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2568 โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยืนยันเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้า พร้อมย้ำว่าจะไม่ขยายเส้นตายในการบังคับใช้ภาษีชุดใหม่ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 44,240.76 จุด ลดลง 165.60 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,225.52 จุด ลดลง 4.46 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดบวกเล็กน้อยที่ 20,418.46 จุด เพิ่มขึ้น 5.95 จุด หรือ +0.03%
โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันเดียวกัน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และพลังงาน นักลงทุนประเมินท่าทีของสหรัฐฯ ต่อมาตรการภาษีและเส้นตายการเจรจาการค้า ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 545.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.21 จุด หรือ +0.41% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,766.71 จุด เพิ่มขึ้น 43.24 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,206.91 จุด เพิ่มขึ้น 133.24 จุด หรือ +0.55% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,854.18 จุด เพิ่มขึ้น 47.65 จุด หรือ +0.54% ถือเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์นับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นบริษัทส่งออก
ด้านตลาดพลังงาน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก โดยเพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 68.33 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะผลิตน้ำมันลดลงในปีนี้ และแรงกดดันจากเหตุการณ์กลุ่มฮูตีโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 70.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนราคาทองคำในตลาด COMEX นิวยอร์ก ปิดลบจากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมุมมองเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 25.90 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 3,316.90 ดอลลาร์/ออนซ์ นอกจากนี้ ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ดีดตัวสูงขึ้น
ขณะที่ค่าเงิน ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.03% แตะระดับ 97.514 โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในระยะถัดไป