JKN ยื่นแก้แผนฟื้นฟู-ขอเลื่อนส่งงบปี 66 หลังถูก ก.ล.ต. สั่งสอบประเด็นลิขสิทธิ์-เจ้าหนี้

นางสาวพิสมัย ห่างไธสง กรรมการบริษัท รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แจ้งในฐานะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ได้นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 เจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 นั้น ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดประชุม

โดยบริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการเนื่องมาจากการที่คณะกรรมการของบริษัท มีการเปลี่ยนแปลง และบริษัทประสงค์จะแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดของเจ้าหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟู กิจการเพิ่มเติม โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ได้มีมติให้ ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ (คำร้องฯ) ตามรายละเอียดดังกล่าว และบริษัทได้ยื่นคำร้องฯ ต่อเจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568

ทั้งนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และหากมีความคืบหน้าใด ๆ เพิ่มเติม บริษัทจะเรียนแจ้งให้ท่านทราบผ่านระบบ เผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

อีกทั้ง JKN ได้รับหนังสือ ที่ กลต.กร. 1870/2568 จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามหนังสือที่อ้างถึง โดยแจ้งให้บริษัทแก้ไข งบการเงินงวดประจำปี 2566 รวมถึงงวดที่แสดงเปรียบเทียบที่ได้รับผลกระทบ และให้นำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขที่ผ่านการ ตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้วต่อสำนักงาน ก.ล.ต. รวมถึงรายงานการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 56 แห่ง พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

พร้อมทั้งเปิดเผยงบการเงินและรายงานฉบับที่แก้ไขต่อสาธารณชนผ่านระบบ เผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink) ภายในวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 นั้น

โดยบริษัทขอเรียนว่า ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งให้แก้ไขงบการเงินดังกล่าว ก.ล.ต. มีข้อสังเกตเพิ่มขึ้นในประเด็น เจ้าหนี้ที่เกิดจากรายการซื้อลิขสิทธิ์ บริษัทและบริษัท สำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ผู้สอบบัญชีอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) จึงทบทวนขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ครอบคลุมตามประเด็นที่

อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. มีข้อสังเกตดังกล่าว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำร่างรายงาน Special Audit การซื้อลิขสิทธิ์รายการ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน กรกฎาคม 2568

นอกจากนี้ ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 8/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติ ให้สำนักงาน ดร.วิรัช เป็นผู้ตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเกี่ยวกับลูกหนี้ลิขสิทธิ์รายการ นั้น สืบเนื่องจากที่บริษัทได้รับแจ้งให้แก้ไข งบการเงิน จึงได้มีการกำหนดขอบเขตให้ครอบคลุมตามประเด็นที่ ก.ล.ต. ตั้งข้อสังเกต โดยปัจจุบันสำนักงาน ดร.วิรัช ได้เริ่มเข้าทำการตรวจสอบ ณ ที่ทำการของบริษัทแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและสรุปผลอีกระยะหนึ่ง

ดังนั้น บริษัท จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอขยายระยะเวลาการนำส่งงบการเงินและรายงานการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ดังกล่าว ออกไปเป็นระยะเวลา 3 เดือน คือ ภายในวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ต่อ ก.ล.ต. ทั้งนี้ การขอขยายระยะเวลาดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาโดย ก.ล.ต. และหากมีความคืบหน้าใด ๆ เพิ่มเติม บริษัทจะเรียนแจ้งให้ท่านทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งฯ ต่อไป