
CKP คว้ารางวัล Asia’s Best Companies 2025 ตอกย้ำความเป็นเลิศบริหารจัดการ
CKP คว้ารางวัล Asia’s Best Companies 2025 จากนิตยสาร FinanceAsia ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการระดับภูมิภาค และความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วเอเชีย
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยว่า บริษัทได้รับรางวัลระดับ Bronze ในกลุ่มบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม (Best Managed Company) จากเวทีประกาศรายชื่อสุดยอดบริษัทแห่งเอเชีย 2568 (Asia’s Best Companies Poll 2025) จัดโดยนิตยสาร FinanceAsia ฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อด้านการเงินการลงทุนชั้นนำของภูมิภาค ซึ่งมอบรางวัลให้แก่องค์กรชั้นนำของเอเชีย จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ นักลงทุน และนักวิเคราะห์ทั่วภูมิภาคเอเชีย
โดยพิจารณาจากมิติแห่งความเป็นเลิศหลายปัจจัย อาทิ การวางกลยุทธ์องค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ความโปร่งใสในการสื่อสารกับนักลงทุน การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมถึงความสามารถในการปรับตัวและรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ ท่ามกลางบริบทเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การได้รับรางวัลในครั้งนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของ CKPower ในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนความสามารถในการรักษาเสถียรภาพ แม้อยู่ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ผันผวน และบริบทของโลกที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน โดยขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์สู่ความยั่งยืน “C-K-P” ซึ่งประกอบไปด้วย C – ไฟฟ้าสะอาด (Clean Electricity) มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดภายในปี 2586 และเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน มากกว่า 95% ภายในปีเดียวกัน
รวมถึงเดินหน้าสู่ Net Zero ภายในปี 2593, K – เพื่อนบ้านที่ดี (Kind Neighbor) สนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและชุมชน โดยดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบจริยธรรม ไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมส่งเสริมคุณภาพชีวิตชุมชนผ่านการพัฒนาพลังงานสะอาดและโครงการด้านสังคมและ P – พันธมิตรที่ยั่งยืน (Partnership for Life) ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการขยายฐานลูกค้าและการเติบโตในภูมิภาค
“สำหรับก้าวเดินต่อจากนี้ CKPower ได้วางแผนเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานหมุนเวียน ทั้ง พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ โดยตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตจากโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในรูปแบบ Private PPA และ ยื่นประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเพิ่มเติมจากภาครัฐ ควบคู่ไปกับการขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs) ด้านโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ที่ร่วมกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ครบทั้งหมดในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 ขณะที่โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง คาดว่าจะสามารถเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนในปี 2573 โดยบริษัทได้วางเป้าหมายการเติบโตในด้านการพัฒนาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสร้างรากฐานความมั่นคงทางพลังงาน ตลอดจนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน” นายธนวัฒน์ กล่าว