KKP รายได้ค่าฟีพุ่ง-ตั้งสำรองลด ดันกำไร Q2 โต 83% แตะ 1.4 พันล้าน

KKP รายงานงบไตรมาส 2/68 กำไรแตะ 1.4 พันล้านบาท โตทะลัก 83% รับรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น และตั้งสำรองลดลง ดันงวด 6 เดือนแรกกำไรแตะ 2.47 พันล้านบาท โต 9%


ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

สำหรับ KKP รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,409.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 768.79 ล้านบาท เป็นผลมาจากธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 1,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่ยังอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจวานิชธนกิจ ซึ่งยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ยังคงรักษาอันดับ 1 ในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 20.83

รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในไตรมาสนี้อยู่ที่ 3,454 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของผลขาดทุนจากการขายรถยึด ซึ่งลดลงเหลือ 631 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.4 ตามปริมาณรถยึดที่ทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 973 ล้านบาท โดยเมื่อรวมกับรายการขาดทุนจากการขายรถยึดแล้ว คิดเป็นอัตราส่วนค่าใช้จ่ายด้านเครดิต (credit cost) ที่ร้อยละ 1.78 ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ซึ่งปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากร้อยละ 2.89 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สะท้อนประสิทธิภาพของมาตรการในการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,471.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.63% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,274.81 ล้านบาท

Back to top button