“กสิกร” แนะหุ้น 3 กลุ่มเด่น “วิทัย” นั่งผู้ว่าธปท. หนุน​ “ดอกเบี้ยขาลง–ปลดล็อกหนี้”

“บล.กสิกรไทย” ประเมินการแต่งตั้ง “วิทัย รัตนากร” นั่งผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ชูแนวคิดลดดอกเบี้ย–ปลดล็อกหนี้ครัวเรือน หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อกลุ่มแบงก์–ส่งออก–อสังหาริมทรัพย์ พร้อมประเมิน SET มีอัปไซด์หากดอกเบี้ยลดแรงกว่าคาด แนะเก็งกำไร KKP, TTB, KCE และ CPALL


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(22 ก.ค.68) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง เนื่องจากนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KS ระบในบทวิเคราะห์โดยประเมินว่า การแต่งตั้งดังกล่าวสะท้อนการเปลี่ยนผ่านแนวทางนโยบายการเงินในช่วงถัดไป โดยนายวิทัย รัตนากร มีผลงานที่สำคัญคือการขับเคลื่อนธนาคารออมสินเป็นธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank) พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจ Non-Bank อย่างเต็มตัว โดยสนับสนุนแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด รวมถึงการผลักดัน SME ให้เข้าถึงสินเชื่อในระบบมากขึ้น

นอกจากนี้นายวิทัยยังชูแนวคิด “ธปท. ต้องเป็นอิสระแต่ไม่โดดเดี่ยว” โดยมองว่าการลดดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมาล่าช้า และเสนอ 3 แนวทางแก้หนี้ ได้แก่ 1.การสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ,2.การลดดอกเบี้ยเงินกู้  และ3. มาตรการเสริมอื่นๆ เช่น การโอนหนี้เสียออกมาบริหารจัดการ

อีกทั้งให้ความเห็นแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนโดยการลดดอกเบี้ยเงินกู้ ช่วยให้ลูกหนี้ตัดเงินต้นได้มากขึ้นแม้จ่ายเท่าเดิม และช่วยบรรเทาภาระหนี้ของครัวเรือน ซึ่งคุณวิทัยมองว่า การลดดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือสำคัญและจำเป็นในการลดหนี้ครัวเรือน

ทั้งนี้บล.กสิกรไทยประเมินผลกระทบเชิงกลุ่มอุตสาหกรรม หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ดังนี้

-กลุ่มการเงิน ระยะสั้นอาจได้รับ sentiment เชิงบวกจากการเก็งกำไรเรื่องการลดดอดเบี้ย BoT โดยทุกๆ 25bps เป็นบวกต่อกำไรกลุ่มประมาณ 5% +/- อย่างไรก็ตามในระยะกลางอาจเผชิญกับแรงกดดันหากมีประเด็นเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยฝั่งเงินกู้เช่นกัน (loan yield) โดยทุกๆ 100 bps จะกระทบกำไรของกลุ่ม finance 15-20% ในปี 2569 คำแนะนำราคาหุ้นกลุ่ม Finance ตอบรับประเด็นดังกล่าวไปแล้ว ไม่แนะนำให้ไล่ซื้อ

-กลุ่มธนาคาร การลดอัตราดอกเบี้ยธนาคาร (bank loan) ทุกๆ 25 bps จะกระทบกำไรของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 5-10% แนะ KKP, TTB

-กลุ่มส่งออก อาจได้รับ Sentiment การเก็งกำไรจากเงินบาทที่พลิกกลับมาอ่อนค่า หากเห็นการลดดอกเบี้ยที่สูงกว่าประมาณการเดิม (Assumption 1.50%, THB 33.70) คำแนะนำซื้อ KCE ราคาเป้าหมาย 23.0บาท

-กลุ่มค้าปลีก, อสังหาริมทรัพย์ การเข้าถึงสินเชื่อและดอกเบี้ยที่ต่ำลงรวมถึงเงินกู้จะเป็นบวกทางอ้อมต่อกลุ่มอสังหาและค้าปลีก นำโดย CPALL, SPALI

ทั้งนี้ KS ประเมินดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันที่ 1.50% หาก กนง. ปรับลดมากกว่าที่ตลาดรับรู้ไว้ ทุกๆ 25bps จะเปิด Upside ต่อ SET Index ราว 25–30 จุด ผ่านการปรับ Earning Yield Gap อย่างไรก็ดี ราคาปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยดังกล่าวไว้บางส่วนแล้ว

Back to top button