PTTEP เปิดงบ 6 เดือนแรก กำไร 3.01 หมื่นล้าน เคาะปันผล 4.10 บาท ขึ้น XD 8 ส.ค. นี้

PTTEP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 1.35 หมื่นล้านบาท ส่วน 6 เดือนแรก 2568 แตะ 3.01 หมื่นล้านบาท เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 4.10 บาท/หุ้น ขึ้น XD 8 ส.ค.นี้


บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส2 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

สำหรับรายงานไตรมาส 2/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 13,515.26 ล้านบาท ลดลง 43.63% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 23,977.68 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงตามราคาตลาด ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จากโครงการ G1/61, G2/61 และโครงการมาเลเซียแปลง K ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจากกิจกรรมซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้น และค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากโครงการ G2/61 ที่มีสินทรัพย์พร้อมใช้งานเพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 30,076.24 ล้านบาท ลดลง 29.50% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 42,660.49 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลงตามราคาตลาด แม้ปริมาณขายเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น 1% โดยได้รับผลดีจากโครงการ G1/61 ที่เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในเดือนมีนาคม 2567 และโครงการมาเลเซีย แปลงเค ที่มีการขายน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากโครงการมาเลเซีย แปลงเค ซึ่งมีปริมาณขายเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายจากกิจกรรมซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้นในโครงการ G1/61, G2/61 และโครงการ S1

นอกจากนี้ ค่าเสื่อมราคา ค่าสูญเสีย และค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากโครงการ G1/61 ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และโครงการ G2/61 ที่มีสินทรัพย์พร้อมใช้งานมากขึ้น

ส่วนขาดทุนจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติในงวด 6 เดือนนี้อยู่ที่ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็น 700 ล้านบาท) ลดลง 14 ล้านดอลลาร์ (คิดเป็น 490 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากกำไรจากสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันตามราคาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าที่ลดลง ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน ราคาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันทาง PTTEP ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ  4.10 บาท โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 ส.ค. 2568 พร้อมจ่ายเงินปันผลวันที่ 22 ส.ค. 2568

ส่วนแนวโน้มตลาดน้ำมันโลกในช่วงครึ่งหลังปี 2568 คาดว่าจะเผชิญกับสถานการณ์อุปทานล้นตลาด เนื่องจากการเติบโตของอุปสงค์ที่ ชะลอตัวท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้า ขณะที่อุปทานมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่สูงกว่า ส่งผล ให้เกิดภาวะไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยตลอดทั้ง ปีจะอยู่ในช่วง 65–75 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรล

Back to top button