
HMPRO รายได้ขาย-บริการลด กดกำไร Q2 หด 14% เหลือ 1.40 พันล้านบาท
HMPRO เผยกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 เหลือ 1,398.55 ล้านบาท ลดลง 13.76% จากช่วงปีก่อน สาเหตุจากรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้าลดลง ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกกำไร 3,105.93 ล้านบาท ลดลง 6.86%
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,398.55 ล้านบาท ลดลง 223.15 ล้านบาท หรือ 13.76% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 1,621.70 ล้านบาท
สาเหตุหลักของการลดลงมาจากรายได้รวมที่อยู่ที่ 17,456.81 ล้านบาท ลดลง 1,078.44 ล้านบาท หรือ 5.82% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็น
รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 16,391.51 ล้านบาท ลดลง 1,006.67 ล้านบาท หรือ 5.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการปรับตัวลดลงของรายได้เป็นผลมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงฤดูร้อนที่สั้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ยอดขายกลุ่มสินค้าทำความเย็นปรับตัวลดลง
รายได้ค่าเช่า จำนวน 475.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.02 ล้านบาท หรือ 3.72% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่ในสาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
รายได้อื่น จำนวน 590.28 ล้านบาท ลดลง 88.79 ล้านบาท หรือ 13.07% โดยเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับคู่ค้าที่ลดลงทั้งในช่องทางสาขาและช่องทางออนไลน์ รวมถึงเงินสนับสนุนทางการค้าที่ลดลงตามยอดขาย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้กำไรขั้นต้น จากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 4,231.53 ล้านบาท ลดลง 338.07 ล้านบาท หรือ 7.40% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายลดลงจาก 26.26% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 25.82% เป็นผลมาจากการได้รับส่วนลดทางการค้าตามปริมาณการสั่งซื้อสินค้าลดลง ซึ่งเป็นไปตามยอดขายรวมที่ปรับตัวลดลง
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 3,105.93 ล้านบาท ลดลง 6.86% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,334.54 ล้านบาท