
“SCB CIO – BlackRock” ชู 3 แผนรับมือเศรษฐกิจผันผวน แนะลงทุนหุ้น-ทองคำ-บอนด์สหรัฐฯ
SCB CIO ผนึกมุมมอง BlackRock วาง 3 แนวทางลงทุนครึ่งปีหลัง 2568 เน้นกลยุทธ์ “Stay Invested” ชี้หุ้นสหรัฐฯ–เทคโนโลยี–ทองคำ–บอนด์อายุสั้น ยังเป็นทางเลือกเด่นในภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน
นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า SCB Chief Investment Office (CIO) ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุนกับ BlackRock ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก พบว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2568 ตลาดการเงินทั่วโลกได้รับผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนเปลี่ยนจากเดิมที่พึ่งพาเสถียรภาพมหภาคไปสู่การจัดพอร์ตเชิงรุกและเจาะลึกในโครงสร้าง
โดย BlackRock Investment Institute ได้เสนอ 3 แนวทางสำคัญสำหรับการลงทุนในครึ่งปีหลัง 2568 ได้แก่ 1) การลงทุนตอบสนองสถานการณ์ปัจจุบัน (Investing in the here and now) ด้วยการเน้นจัดพอร์ตระยะสั้น (6–12 เดือน) โดยให้น้ำหนักกับหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตจากเทรนด์ AI, 2) การลงทุนภายใต้เสถียรภาพมหภาคที่ลดลง (Taking risk with no macro anchor) โดยเน้นการบริหารเชิงรุกเพื่อสร้างผลตอบแทนเหนือค่าเฉลี่ย และ 3) การมุ่งหาแรงขับเคลื่อนระยะยาวในกลุ่ม Mega forces เช่น AI, โครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนภาคเอกชน
ทั้งนี้ จากแนวทางดังกล่าว BlackRock และ SCB CIO แนะนำให้นักลงทุนยังคง “Stay Invested” ด้วยการเน้นคัดเลือกสินทรัพย์คุณภาพสูง และวิเคราะห์เชิงลึก โดยเฉพาะธีมการลงทุนที่มีโอกาสเติบโตในโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่
ขณะที่ในเชิงกลยุทธ์ SCB CIO ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ บนพอร์ตหลักระยะยาว และแนะนำหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลกและดัชนี Nasdaq 100 สำหรับพอร์ตเสริมในระยะสั้น ด้านตลาดหุ้นจีน H-Share ก็ได้รับคำแนะนำให้ลงทุนทั้งระยะสั้นและยาว จากแนวโน้ม EPS ที่เติบโตดีและได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้น รวมถึงพัฒนาการของ AI
ขณะเดียวกัน ยังแนะนำตลาดหุ้นยุโรป จากการใช้จ่ายภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานและกลาโหม, หุ้นญี่ปุ่นที่ได้แรงหนุนจากการปฏิรูปธรรมาภิบาล และตลาดหุ้นอินเดียที่ EPS เติบโตดีตามอุปสงค์ในประเทศ สำหรับเกาหลีใต้ก็มีโอกาสจาก Valuation ที่ยังต่ำเมื่อเทียบตลาดเกิดใหม่ และ EPS มีแนวโน้มขยายตัวดีในปีนี้
ด้านตราสารหนี้ BlackRock ให้น้ำหนัก Overweight กับพันธบัตรสหรัฐฯ อายุสั้นถึงกลางที่ให้ผลตอบแทนสูง และได้รับผลกระทบจำกัดจากการปรับขึ้นของ yield ขณะเดียวกัน Underweight ตราสารหนี้อายุยาวเพราะต้องการส่วนชดเชยความเสี่ยง (term premium) สูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับมุมมอง SCB CIO ที่แนะนำลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดีของสหรัฐฯ
สำหรับทองคำ BlackRock และ SCB CIO เห็นตรงกันว่า ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ควรมีในพอร์ตเพื่อบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะในภาวะความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เงินเฟ้อสูง และความไม่แน่นอนของตลาด
อย่างไรก็ตาม รายงานนี้จัดทำโดย SCB CIO ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยแนะนำให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลและขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากความผันผวนของค่าเงิน