
“หยวนต้า” แนะ “ซื้อ” THAI เป้า 10.70 บาท ลุ้นกำไรปี 68 แตะ 2.8 หมื่นล้าน โต 27%
บล.หยวนต้า ประเมินในปี 2568-2570 เติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี โดยคาดกำไรปี 68 แตะ 2.8 หมื่นล้านบาท โต 27% มีปัจจัยหนุนจากการขยายฝูงบิน การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และแนวโน้มต้นทุนน้ำมันที่ลดลง โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ YUANTA ระบุในบทวิเคราะหะประเมิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผลประกอบการปี 2567 โดยมีรายได้รวมกว่า 187,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากปีก่อนหน้า และสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2562 แม้จำนวนผู้โดยสารจะอยู่ที่ 16 ล้านคน คิดเป็น 66% ของฐานเดิมก็ตาม โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วย (Passenger Yield) และจำนวนชั่วโมงบินที่เพิ่มขึ้น
โดยธุรกิจสายการบินยังคงเป็นรายได้หลัก คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของรายได้รวม โดยมีรายได้จากเส้นทางบินระหว่างประเทศถึง 81% ขณะที่อีก 20% มาจากธุรกิจสนับสนุน อาทิ การขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ ธุรกิจคลังสินค้า บริการภาคพื้น และครัวการบิน
ภายหลังพ้นจากสถานะรัฐวิสาหกิจในปี 2563 บริษัทมีความคล่องตัวในการบริหารมากขึ้น และได้ดำเนินแผนฟื้นฟูกิจการระหว่างปี 2564-2567 อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถปรับโครงสร้างหนี้จากระดับกว่า 400,000 ล้านบาท เหลือเพียง 95,000 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 พร้อมพลิกกลับมามีส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวกที่ระดับ 55,000 ล้านบาท และมีสถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash Company ด้วยเงินสดและรายการเทียบเท่ากว่า 125,000 ล้านบาท รองรับแผนลงทุนระยะ 3 ปีโดยไม่ต้องก่อหนี้เพิ่ม
ในด้านต้นทุน บริษัทสามารถลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายพนักงานลงเหลือเพียง 9.7% ของรายได้ จากเดิมที่เคยสูงถึง 23% ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายงาน EBITDA หลังหักค่าเช่าเครื่องบินที่ระดับ 42,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายในแผนฟื้นฟูกิจการถึงเท่าตัว
สำหรับแผนการเติบโต บริษัทเดินหน้าขยายฝูงบินเชิงรุกเพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลัก โดยได้จัดหาเครื่องบิน Boeing ใหม่ 45 ลำ และมีแผนเช่า Airbus เพิ่มอีก 32 ลำ ตั้งเป้าขยายฝูงบินรวมเป็น 150 ลำภายในปี 2576 จากระดับ 78 ลำ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568
ทั้งนี้ แผนดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันประเทศไทยให้เป็น Aviation Hub ของภูมิภาค โดย THAI ในฐานะสายการบินแห่งชาติได้ร่วมมือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายเส้นทางบิน ล่าสุด บริษัทได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงพาณิชย์ (Joint Business Agreement: JBA) กับสายการบิน Turkish Airlines เพื่อขยายเครือข่ายเข้าสู่ยุโรปมากกว่า 60 เส้นทาง
โดย THAI ประเมินว่าแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินจะสนับสนุนผลการดำเนินงานในระยะยาว โดยคาดว่ากำไรปกติในช่วงปี 2568 จะอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2569 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2570 อยู่ที่ 31,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน หรือในปี 2568-2570 เติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี (CAGR) โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายฝูงบิน การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และแนวโน้มต้นทุนน้ำมันที่ลดลง รวมถึงภาระหนี้ที่ทยอยลดลงตามแผนชำระหนี้
ทั้งนี้ บริษัทเริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2569 ที่ระดับ 10.70 บาทต่อหุ้น ประเมินมูลค่าด้วยอัตราส่วน EV/EBITDA ที่ 7.0 เท่า อ้างอิงค่าเฉลี่ยของผู้ประกอบการในภูมิภาค และต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1S.D. ของบริษัทในช่วงก่อนโควิด-19 (2558-2562)