
ก.ล.ต.เชือดแก๊งปั่นหุ้น UREKA รวม 6 ราย สั่งปรับ 65 ล้านบาท
ก.ล.ต. ลงดาบผู้กระทำความผิด 6 ราย ปมปั่นหุ้น UREKA ปรับรวม 65 ล้านบาท แบนซื้อขาย-ห้ามนั่งห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารสูงสุด 34 เดือน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เมื่อเดือนกันยายน ปี 2563 และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2563 ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ผู้กระทำความผิด 6 ราย ได้แก่ 1.) นายปรีชา ใคร่ครวญ
2.) นายพงษ์เชณฐ เหรียญชัยวานิช 3.) นายศรายุทธ คงอ่ำ 4.) นางสาวอารีพร แก้วกลม 5.) นายวรวิทย์ ควนวิไล และ 6.) นางสาวโสพิส ผูกพัทธิ์ ซึ่งมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างกัน ทั้งในด้านความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ และความสัมพันธ์ทางเงิน ได้ร่วมกันในกรณีสร้างราคาหรือปริมาณหลักทรัพย์ โดยส่งคำสั่งซื้อหรือขายหลักทรัพย์ หรือซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ในลักษณะต่อเนื่องกัน โดยมุ่งหมายให้ราคาหลักทรัพย์หรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด
ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิด 6 รายดังกล่าวได้ร่วมกันกระทำการโดยแบ่งหน้าที่กันซื้อขายหุ้น บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA ในลักษณะสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขาย โดยมีพฤติกรรมสอดรับและสนับสนุนซึ่งกันและกันในลักษณะสลับหน้าที่กันเข้ามาสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น UREKA ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
โดยมีการส่งคำสั่งซื้อในลักษณะผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น การเคาะซื้อด้วยหุ้นปริมาณน้อยโดยประสงค์ให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น การเคาะซื้อหรือส่งคำสั่งซื้อเพื่อกวาดคำเสนอขาย (offer) ที่ดีที่สุด การครองคำเสนอซื้อ (bid) ในหลายระดับราคาเพื่อขัดขวางการซื้อขายของนักลงทุนอื่น
ทั้งนี้ ทำให้นักลงทุนอื่นต้องเคาะซื้อในราคาที่สูงขึ้น การควบคุมราคาปิด รวมถึงการจับคู่ซื้อขายด้วยปริมาณ ราคา และช่วงเวลาใกล้เคียงกันหลายครั้ง และมีพฤติกรรมสอดรับหรือสนันสนุนในลักษณะความสัมพันธ์ทางเงินในการกระทำความผิดระหว่างกัน ส่งผลให้ราคาหุ้น UREKA เปลี่ยนแปลงไปไม่ตรงต่อสภาพปกติของตลาด
ขณะที่ การกระทำของกลุ่มผู้กระทำความผิดจำนวน 6 รายข้างต้น เป็นความผิดฐานตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ*กับผู้กระทำความผิดทั้ง 6 รายดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่
1.) ให้นายปรีชา ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 37,856,934 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 17 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 34 เดือน
2.) ให้นายพงษ์เชณฐ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 991,459 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน
3.) ให้นายศรายุทธ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 25,123,872 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 17 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 34 เดือน
4.) ให้นางสาวอารีพร ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 674,513 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน
5.) ให้นายวรวิทย์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 625,187 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน
6.) ให้นางสาวโสพิส ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 674,513 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นเวลา 28 เดือน
มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง