
NER ส่งซิกกำไร Q3 โต ลุ้นคว้าออเดอร์ “กู๊ดเยียร์” ล็อตใหญ่
NER ส่งซิกผลงานไตรมาส 3/68 โตต่อ คาดปริมาณการขายโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังมีออเดอร์สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ยางพาราล่วงหน้ายาวถึง พ.ย. 68 แล้ว พร้อมลุ้นรับออเดอร์ก้อนใหญ่จาก “กู๊ดเยียร์” เข้ามาในไตรมาส 4/68
นายศักดิ์ชัย จงสถาพงษ์พันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบริหารบัญชี-การเงิน บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 บริษัทคาดจะมีปริมาณการขายจะเติบโตมากกว่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และใกล้เคียงกับไตรมาส 2/2568 เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อ (Order) ยางพาราล่วงหน้ายาวถึงเดือนพฤศจิกายน 2568 แล้ว
ขณะที่เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัทได้ต้อนรับ “กู๊ดเยียร์” (Goodyear) ลูกค้าสัญชาติสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่ของโลก ได้เดินทางมาจากสำนักงานสิงคโปร์ เพื่อมาเยี่ยมชมโรงงานผลิตและมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์ยางพาราของบริษัท โดยหากโรงงานของบริษัทผ่านมาตรฐานที่ “กู๊ดเยียร์” คาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้อ (Order) เข้ามาเร็วสุดในไตรมาส 4/2568 หรือช้าสุดในช่วงต้นปี 2569 แต่ยังไม่ระบุรายละเอียดตัวเลของออเดอร์
นอกจากนี้ได้มีการเจรจากับหลิงหลง (Linglong Tire) หนึ่งในผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันมีการซื้อขายกันอยู่แล้ว เพื่อเปลี่ยนสัญญาการซื้อขายเป็นระยะยาวแทน
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทยังมีความมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานได้ตามแผนงานที่วางไว้ โดยจะมีรายได้รวมเกิน 30,000 ล้านบาท จากปี 2567 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 27,000 ล้านบาท และจะมีปริมาณการขายจะอยู่ที่ 500,000 ตัน จากปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 440,000 ตัน
ส่วนกรณีไฟไหม้โรงงานบริเวณโกดังสำหรับเก็บสินค้ายางพารา เพื่อรอการจัดจำหน่าย ซึ่งมียางแท่งประมาณ 2,000 ตัน ที่เตรียมส่งมอบให้ลูกค้า 4 ราย ที่มาจากประเทศอินเดีย และสิงคโปร์ ได้รับความเสียหาย มูลค่ารวมประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งมีการทำประกันครอบคลุมความเสียหายดังกล่าวแล้ว ขณะที่มีการแก้ปัญหา โดยการบริหารสต๊อกสินค้าที่ยังไม่ได้ถึงกำหนด นำมาทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าดังกล่าวแทนไปก่อน คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือน สิงหาคม 2568 นี้
นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ในวันที่ 8 สิงหาคม 2568 นี้ บริษัทจะมีการคณะกรรมการบริษัทเพื่ออนุมัติผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 และแจ้งงบการเงินในวันดังกล่าว ซึ่งแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 6,500 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 450 ล้านบาท และเติบโตมากกว่าไตรมาสก่อน ที่มีรายได้รวม 8,600 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 600 ล้านบาท เนื่องจากมีคำสั่งซื้อปิดในไตรมาส 2/2568 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นช่วงที่มีการขายยางพาราในระดับราคาที่สูงด้วย