NER ยอดขายยางพาราพุ่ง ดันกำไร Q2 แตะ 554 ลบ. เคาะปันผล 0.05 บาท ขึ้น XD 22 ส.ค.นี้

NER ประกาศงบไตรมาส 2/68 มีรายได้จากการขายรวม 7,584.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.56% มีกำไรสุทธิ 554.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมเคาะจ่ายปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.05 บาท/หุ้น ขึ้น XD 22 ส.ค.68 กำหนดจ่ายปันผล 5 ก.ย.68


นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER  ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยางผสม และสินค้าปลายน้ำแผ่นยางพาราปูพื้นคุณภาพสูง เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/2568 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณขาย 111,883 ตัน เพิ่มขึ้น 21,432 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.69  คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 7,584.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,775.35 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.56

โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 6,087.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 80.27% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 1,373.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.13% และรายได้จากการขายต่างประเทศ 1,496.76 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 19.73% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 402.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36.74% ทั้งนี้มีกำไรสุทธิสำหรับงวดไตรมาส 2/2568 เท่ากับ 554.00 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.30% ของรายได้จากการขายรวม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 75.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.72%

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก งวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณขาย 238,973 ตัน เพิ่มขึ้น 33,903 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 16.53%  คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 16,282.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,931.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31.83% แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 12,165.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 74.71% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 2,581.06 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.93%  และรายได้จากการขายต่างประเทศ 4,117.33 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 25.29% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 1,350.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 48.81%

ทั้งนี้ หากสรุปรายได้จากการขายครึ่งปีแรกงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.83 โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น แบ่งเป็นผลต่างด้านราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,889.44 ล้านบาท และแบ่งเป็นผลต่างด้านปริมาณเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,309.58 ล้านบาท  โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,162.83  ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 7.14 ของรายได้จากการขายรวม โดยเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 230.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.72

โดยวันนี้ 8 สิงหาคม 2568 ทางมติคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินยอดจ่ายปันผล 92.39 ล้านบาท โดยจะขึ้น XD ในวันที่ 22 สิงหาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2568

นายชูวิทย์ กล่าว สำหรับภาพรวมการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2568 มีแนวโน้มดี เนื่องจากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อ (Order) ล่วงหน้า 3-6 เดือนครอบคลุมถึงไตรมาส 4/68 มั่นใจว่าในปี 2568 จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 500,000 ตัน หรือประมาณ 34,000 ล้านบาท และยังมีปัจจัยหนุนความต้องการยางพาราในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย หลังโรงงานผลิตยางรถยนต์ย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศไทย NER ได้ปรับสัดส่วนการส่งสินค้าไปยังโรงงานในประเทศอยู่ที่ 70% และส่งออก 30% ไปยังประเทศญี่ปุ่น จีน และอินเดีย เพื่อลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

Back to top button