2 โบรกเชียร์ “ซื้อ” SAFE เคาะเป้าสูงสุด 10.20 บ. คาด Q3 กำไรโตแรง

2 โบรกเชียร์ "ซื้อ" SAFE เคาะเป้าราคาสูงสุด 10.20 บาท คาดไตรมาส 3/68 ยอดใช้บริการเพิ่ม-ต้นทุนลด ดันกำไรโดดเด่น แถมฐานทุนแกร่งมี Upside จากกลยุทธ์เติบโตแบบ In-Organic


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 2 โบรกเกอร์ชั้นนำของไทยเชียร์ “ซื้อ” หุ้นบริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE นำโดยบล.กรุงศรี จำกัด และบล.บัวหลวง จำกัด โดยโบรกเคาะราคาเป้าหมายสูงสุด 10.20 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/68 เติบโตสวยและเป็นไตรมาสดีสุดของปี จากการใช้บริการเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนลดลง นอกจากนี้บริษัทมีความพร้อมในการลงทุน จากเงินสดและสินทรัพย์ทางการเงินมูลค่ารวม 70% ของ Market cap ผลักดันโอกาสการเติบโต รวมถึงมี Upside จากกลยุทธ์เติบโตแบบ In-Organic โดยระบุในบทวิเคราะห์ดังนี้

บล.กรุงศรี จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำซื้อSAFE โดยประเมินว่าไตรมาส 3/2568 จะเป็นช่วงที่ผลประกอบการโดดเด่นที่สุดของปี โดยมีมุมมอง Neutral ซึ่งข้อมูลล่าสุดในเดือนกรกฎาคมสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวทั้งในด้านการใช้บริการและรายได้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าวจะเติบโต เมื่อเทียบกับทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวของการใช้บริการ และผลบวกจากต้นทุนที่ลดลง

ทั้งนี้ SAFE มีความพร้อมด้านเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ ด้วยเงินสดและสินทรัพย์ทางการเงินรวมคิดเป็นกว่า 70% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ซึ่งเป็นโอกาส Upside ระยะยาวจากกลยุทธ์เติบโตแบบ In-Organic Expansion ด้านมูลค่าหุ้นซื้อขายที่ระดับ PE ปี 2568 (25F) ประมาณ 16 เท่า เทียบเท่า Forward PE ต่ำกว่า -1.0 SD

ด้านแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิราว 36 ล้านบาท เติบโต 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 5% จากไตรมาสก่อนหน้า ฟื้นตัวตามจำนวน OPU Treatment Cycle เฉลี่ยที่ 256 รอบ (ลดลง -12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า ) โดยมีค่าบริการเฉลี่ยอยู่ที่ 550,000 บาท (โต 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  และทรงตัว จากไตรมาสก่อนหน้า ) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) อยู่ที่ 57.3% ปรับตัวดีขึ้นทั้งในช่วงเดียวกันปีก่อนและช่วงไตรมาสก่อนหน้า จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) และค่าเสื่อมราคาที่ลดลง

แนะนำ “ซื้อ” หุ้น SAFE โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2568 (TP 25F) ที่ 10.20 บาท ด้วยวิธีการประเมินมูลค่าแบบ DCF (Discounted Cash Flow) โดยใช้ WACC ที่ 9.7% เนื่องจากคาดว่า 1. แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2568 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปี ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ, 2. มีเงินสดและสินทรัพย์ทางการเงินรวมคิดเป็นกว่า 70% ของ Market Cap สร้างโอกาส Upside จากกลยุทธ์การเติบโตแบบ In-Organic และ 3. คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 5–6% ต่อปี

ด้าน บล.บัวหลวง จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” หุ้น SAFE โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 8.50 บาท อิงจากค่า PE ที่ 20 เท่า (ค่าเฉลี่ย PE ของโรงพยาบาล) สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี

โดยประเมินว่า แนวโน้มไตรมาส 3/2568 คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการขยายตัว ครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 โดยมีแรงหนุนจากกิจกรรมของผู้ป่วยที่ปรับตัวดีขึ้น และจำนวนรอบการรักษา OPU ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ด้วยความนิยมในการมีบุตรในปีมะเมีย (2569) ส่งผลให้ผู้ป่วยเริ่มเตรียมตัวล่วงหน้าในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยเฉพาะการย้ายฝากตัวอ่อนและการย้ายตัวอ่อน ซึ่งมีแนวโน้มเข้าสู่วัฏจักรการรักษาที่เข้มข้นขึ้น สอดคล้องกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงปีมังกร (2566–2567) และคาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตของปริมาณผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2568

Back to top button