“ขสมก.” คลอดแล้ว TOR เมล์อีวี 1,520 คัน วงเงิน 1.5 หมื่นล. สเปกวิ่งขั้นต่ำ 200 กม./ชาร์จ

ขสมก. เดินหน้าโครงการเช่ารถเมล์ไฟฟ้า 1,520 คัน วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท กำหนดสเปกวิ่งขั้นต่ำ 200 กม./ชาร์จ จุผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 65 คน พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน และบำรุงรักษารถนาน 7 ปี คาดเปิดประมูล ต.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (19 ก.ย.68) นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า โครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (รถเมล์ EV) จำนวน 1,520 คัน ของ ขสมก. คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ภายในเดือนตุลาคม 2568

สำหรับรูปแบบการจัดหาล็อตแรก 1,520 คัน โดยขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อเช่ารถ ส่วนโครงการต่อไปจะเป็นรูปแบบ PPP (Public-Private Partnership) ขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้อยู่

การเปลี่ยนผ่านสู่ EV ของ ขสมก.มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนรถโดยสารทุกคันเป็นรถเมล์ EV โดยเริ่มต้นที่ 1,520 คัน และมีเป้าหมายรวม 3,000 คัน  นายกิตติกานต์ กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำลังดำเนินการร่าง TOR (Terms of Reference) จะมีการประชุมสรุปครั้งสุดท้ายวันที่ 18 กันยายน 2568 ที่ผ่านมาหลังจากคณะกรรมการประชุมสรุปแล้ว TOR จะถูกนำขึ้นเว็บไซต์เพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันก่อนประกาศประกวดราคา หากไม่มีผู้มาวิจารณ์ TOR จะสามารถประกาศประกวดราคาได้ทันที รวมทั้งคาดการณ์ช่วงเวลาการประกวดราคาน่าจะเริ่มประมาณเดือนตุลาคม 2568 ส่วนการลงนามสัญญาคาดว่าจะทราบผู้ชนะและสามารถลงนามสัญญาภายใน 4 เดือน หลังเปิดประมูล และการส่งมอบรถเมล์อีวีปรับอากาศ ผู้ชนะการประมูลต้องเริ่มทยอยส่งมอบรถประมาณปลายปี 2569

ล่าสุด องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ดำเนินการจัดทำขอบเขตของงานและรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ (Terms of Reference – TOR) สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างด้วยการ เช่ารถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) และระบบอัดประจุไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 7 ปี เพื่อใช้ในการดำเนินการของ ขสมก. และสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยวัตถุประสงค์และขอบเขตโครงการ เพื่อจัดหาและให้บริการรถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้า

พร้อมกับมีเป้าหมายเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น ค่าเชื้อเพลิง ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษา รวมถึงลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการขนส่งสาธารณะที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพ และยกระดับการให้บริการของ ขสมก.

โครงการจัดซื้อจัดจ้างนี้ มีวงเงินงบประมาณสำหรับรถโดยสาร EV จำนวน 1,520 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 15,355,600,000 บาท

คุณลักษณะเฉพาะของรถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV)

ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องจัดหารถโดยสารที่มีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่ ขสมก. กำหนด โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้:

1.) ลักษณะรถ ต้องเป็นรถโดยสารปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) หรือรถพลังงานไฟฟ้าพื้นต่ำ (Low Floor) มีความกว้างไม่น้อยกว่า 2.55 เมตร และความสูงไม่น้อยกว่า 3.35 เมตร

2.) ระยะทางการวิ่ง รถโดยสารต้องสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และมีแบตเตอรี่ที่ต้องให้ระยะทางการเดินทางต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ไม่น้อยกว่า 200 กิโลเมตร

3.) ความจุผู้โดยสาร ต้องมีความจุผู้โดยสารรวม (ที่นั่งและยืน) ไม่น้อยกว่า 65 คน

4.) ความเร็วสูงสุด ต้องสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง

5.) ระบบขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้าจะต้องเป็นชนิด Permanent Magnet Synchronous Motor ชนิด 3 เฟส และมีระบบเบรกที่ต้องมีทั้งระบบแปลงพลังงานกลับ (Regenerative Braking System) และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Antilock Brake System – ABS)

6.) โครงสร้าง โครงสร้างตัวถังรถโดยสารต้องได้รับการป้องกันการผุกร่อน/สนิม (Hot-dip galvanizing) ตามมาตรฐาน ISO1461: 2009

7.) กระจก กระจกด้านหน้า (Front Windshield) ต้องเป็นกระจกนิรภัยชนิดลามิเนต (Laminated glass) ๒ ชั้น

คุณลักษณะเฉพาะของระบบอัดประจุไฟฟ้า

ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องจัดหาระบบอัดประจุไฟฟ้าซึ่งประกอบไปด้วย ตู้ควบคุมกำลังไฟฟ้า (Power Cabinet), เครื่องอัดประจุไฟฟ้า (EV Dispenser), หัวจ่าย (Connector) และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อควบคุมการอัดประจุไฟฟ้า (Software)

1.) ตู้ควบคุมกำลังไฟฟ้า (Power Cabinet): ต้องมีกำลังไฟฟ้าขาออกรวม ไม่น้อยกว่า 450 kW ต่อตู้

2.) เครื่องอัดประจุไฟฟ้า (EV Dispenser): ต้องเป็นชนิด DC Fast Charging และมีหัวจ่าย (Connector) จำนวน ๒ หัวจ่าย ต่อเครื่อง โดยมีแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงขาออก 50 -1,000 โวลต์ และกระแสไฟฟ้าขาออกไม่น้อยกว่า 500 แอมป์

3.) การติดตั้ง ผู้ยื่นข้อเสนอต้องจัดส่งมอบระบบอัดประจุไฟฟ้าและหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 355 หัว ภายในระยะเวลา 360 วัน นับถัดจากวันที่ผู้ยื่นข้อเสนอเริ่มดำเนินการจัดหารถโดยสารการบำรุงรักษาและการรับประกัน

ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องจัดทำแผนการบำรุงรักษาในลักษณะ Daily Maintenance และ Preventive Maintenance และต้องรับประกันความเสียหายหรือความชำรุดบกพร่องของรถโดยสาร EV ไม่น้อยกว่า 7 ปี นับแต่วันที่ ขสมก. ตรวจรับมอบรถโดยสาร พร้อมทั้งการรับประกันความเสียหายของระบบอัดประจุไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 5 ปี และต้องมีแผนการบำรุงรักษาสำหรับระบบอัดประจุไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 6 เดือน ต่อครั้ง

Back to top button