CGSI มองกรอบ SET วันนี้ 1,270-1,300 จุด แนะสอย 2 หุ้นเด่น ชู KBANK ปันผลสูง

CGSI คาดกรอบ SET วันนี้ที่ระดับ 1,270-1,300 จุด และปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ปี 68 เป็น 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีมุมมองเชิงบวกต่อโครงการคนละครึ่ง ชู 2 หุ้นเด่น ยังคงชอบ KBANK เนื่องจากผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง


บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ สรุปภาพรวมตลาด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (30 ก.ย.68) และปรับตัวขึ้นทั้งในรายเดือนและรายไตรมาส แม้ว่านักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะถูกปิดทำการ (ชัตดาวน์) ซึ่งอาจทำให้การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญมีความล่าช้า และ ส่งผลให้แนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เผชิญกับความไม่ชัดเจน

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,397.89 จุด เพิ่มขึ้น 81.82 จุด หรือ +0.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,688.46 จุด เพิ่มขึ้น 27.25 จุด หรือ +0.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,660.01 จุด เพิ่มขึ้น 68.86 จุด หรือ +0.30%

สรุปภาพรวมสินทรัพย์อื่นๆ  ภาพข้างต้นยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 3,873.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 95 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 67.02 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังมีข่าวว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกในเดือนพ.ย. รวมทั้งการที่ภูมิภาคเคอร์ดิสถานของอิรักได้กลับมาส่งออกน้ำมันผ่านทางตุรกีอีกครั้ง

โดยทางฝ่ายวิจัยคาดกรอบ SET Index วันนี้ที่ระดับ 1,270-1,300 จุด จับตาแนวรับบริเวณ 1,270-1,275 จุด เนื่องจากเป็นแนวรับสำคัญ และ เมื่อวานที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเศรษฐกิจเดือน ส.ค. 2025 โดย เศรษฐกิจไทยภาพรวมชะลอตัวในเดือนสิงหาคม 2025 เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน โดย

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ปี 68 เป็น 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกต่อโครงการคนละครึ่ง (เทียบกับเงิน 10,000 บาทของรัฐบาลชุดก่อน) เนื่องจากคาดว่าคนละครึ่งมีตัวคูณ (Multiplier effect) ที่สูงกว่าที่ 1.2-1.4 เท่า (เทียบกับ 0.4-0.9 เท่าจากการแจกเงินสด)

สำหรับต่างประเทศ สัปดาห์นี้ติดตาม ตัวเลขตลาดแรงงาน Nonfarm Payrolls ในวันศุกร์ รวมถึง แนวโน้มที่สหรัฐฯ เสี่ยงเผชิญภาวะชัตดาวน์ในช่วงสิ้นเดือน และ China’s Golden Week เริ่ม 1 ต.ค.68

สำหรับ หุ้นแนะนำ มีดังนี้

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แม้กำไรก่อนตั้งสำรองและกำไรสุทธิในไตรมาส 3/68 ของกลุ่มธนาคารน่าจะได้รับผลกระทบจากยอดสินเชื่อที่ลดลงและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ยังชอบกลุ่มธนาคารเนื่องจากผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง และ ปัจจุบัน กลุ่มธนาคารซื้อขายอยู่ที่ P/BV 0.6 เท่าในปี 68 (Take profit : 169.50 / Stop loss : 166.50)

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ทางฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ปี 2025F เป็น 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกต่อโครงการคนละครึ่ง (เทียบกับเงิน 10,000 บาทของรัฐบาลชุดก่อน) และคาดว่าคนละครึ่งมีตัวคูณ (Multiplier effect) ที่สูงกว่าที่ 1.2-1.4 เท่า (เทียบกับ 0.4-0.9 เท่าจากการแจกเงินสด) เพราะเงินคนละครึ่งถูกนำไปใช้จ่ายในเศรษฐกิจจริงแทนที่จะเป็นการชำระหนี้ (Take profit : 48.50 / Stop loss : 46.50)

Back to top button