IAA คัดหุ้นเด่นติดพอร์ต “ADVANC-CPALL-CPAXT-MTC-PTTEP” แนะเลี่ยง “แบงก์–อิเล็ก”

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนต่อมุมมองการลงทุนในตลาดทุนไทยและคาดการณ์ทิศทางดัชนีไทย (SET Index) ประจำไตรมาส 4/2568 ประเมินว่า ดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,234–1,356 จุด คาดสิ้นปี 2568 อยู่ที่ระดับ 1,313 จุด และสิ้นปี 2569 ขยับขึ้นสู่ 1,415 จุด

สำหรับปัจจัยบวกที่มีผลต่อการลงทุนจนถึงสิ้นปี 2568 ได้แก่ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจ 100% เห็นว่าเป็นบวก ตามด้วยทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ (92.59%) และปัจจัยการเมืองในประเทศ (81.48%) ส่วนปัจจัยลบหลักมาจากการเมืองต่างประเทศ (55.56%) การลดหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของประเทศสำคัญทั่วโลก และปัจจัยเศรษฐกิจโลก (51.85%)

ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ สิ้นปี 2568 มีนักวิเคราะห์ 68% คาดว่าจะปรับลดลงเหลือ 1.25% ขณะที่ 28% มองว่าจะปรับลงถึง 1.00% และมีเพียง 4% ที่มองว่าคงที่ที่ 1.50% จากปัจจุบัน 1.50% (ณ วันที่ 30 กันยายน)

สำหรับคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของตลาดปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 85.14 บาทต่อหุ้น ใกล้เคียงกับผลสำรวจครั้งก่อนที่ 85.43 บาทต่อหุ้น และคาดว่า EPS Growth ปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 9.27% ขณะที่กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2569 คาดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 90.67 บาทต่อหุ้น

ในส่วนของการลงทุนต่างประเทศ ผู้ตอบแบบสำรวจแนะนำกองทุนตราสารหนี้โลก ตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ กลุ่ม AI-Technology และ Selective Asia ได้แก่ จีน ฮ่องกง อินเดีย และญี่ปุ่น โดยมีหลักทรัพย์ประเภท Depositary Receipt (DR/DRx) ที่แนะนำตรงกันตั้งแต่ 6 สำนักขึ้นไป ได้แก่ BABA80, GOLD19, MSFT80 และ XIAOMI80

สำหรับการลงทุนในหุ้นไทย แนะนำเพิ่มน้ำหนักในหมวดค้าปลีก ไฟแนนซ์ โรงไฟฟ้า ธุรกิจท่องเที่ยว และการแพทย์ พร้อมทั้งลดน้ำหนักการลงทุนในหมวดธุรกิจส่งออกและปิโตรเคมี โดยรายชื่อหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำตรงกันตั้งแต่ 4 สำนักขึ้นไป ได้แก่

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนทุกไตรมาส จากการแข่งขันที่ลดลงและการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนระยะยาวจาก Data Center และ Virtual Bank

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และได้รับ SET ESG Rating ระดับ AAA

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT กำไรเติบโตจาก Synergies ระหว่าง Makro และ Lotus’s ช่วยลดต้นทุนซ้ำซ้อน และเพิ่มการประหยัดต่อขนาด

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC สินเชื่อโตเด่นกว่ากลุ่ม และมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นในครึ่งหลังปี 2568 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเข้าสู่ High Season

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ปริมาณการผลิตเพิ่มต่อเนื่อง และมีปันผลสูง

ขณะที่หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ หุ้นบางบริษัทในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ที่ราคาสูงเกินพื้นฐาน และหุ้นกลุ่มธนาคารที่เผชิญแรงกดดันจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย