
“ลวรณ” ยัน! THAI ไม่หวนคืน “รัฐวิสาหกิจ” ย้ำบริหารโปร่งใส เพิ่มมืออาชีพเอกชนเสริมบอร์ด
“ลวรณ” ยืนยันเพิ่มบอร์ด THAI เป็น 15 คน เพื่อเสริมคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อให้มีบุคลากรเพียงพอต่อการจัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยที่เหมาะสมต่อการบริหารงาน พร้อมย้ำไม่หวนสู่ “รัฐวิสาหกิจ” เดินหน้าบริหารธุรกิจโปร่งใส
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อทดแทนกรรมการที่หมดวาระและการเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 คนเป็น 15 คน โดยยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่การกลับไปสู่รูปแบบการบริหารแบบรัฐวิสาหกิจ พร้อมระบุว่ากระทรวงการคลังเสนอรายชื่อกรรมการ 10 คน ซึ่งล้วนเป็นมืออาชีพจากภาคเอกชน
ทั้งนี้ การบินไทยไม่ใช่และไม่เคยถูกบริหารในฐานะรัฐวิสาหกิจ แต่เป็น “บริษัทจดทะเบียน” อย่างแท้จริง โดยตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท พร้อมย้ำว่าตราบใดที่ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ จะไม่ยอมให้เกิดเรื่องทุจริต และทุกกระบวนการจะต้องดำเนินไปอย่างโปร่งใส “การให้ข้อมูลหรือข่าวที่ขัดแย้งกันไปมาในที่ประชุม มีแต่จะสร้างผลเสียต่อองค์กร”
สำหรับเหตุผลในการเสนอเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 คนเป็น 15 คน เนื่องจากปัจจุบันจำนวนกรรมการเพียง 11 คนทำให้เกิดข้อจำกัดในการจัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อย โดยขณะนี้การบินไทยมีเพียง 2 คณะกรรมการ คือ คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างไรก็ตาม กรรมการตรวจสอบซึ่งต้องเป็นกรรมการอิสระ 3 คน ไม่สามารถดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการชุดอื่นได้ ทำให้เหลือจำนวนกรรมการไม่เพียงพอที่จะตั้ง “คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง” ซึ่งเป็นคณะกรรมการสำคัญสำหรับองค์กรขนาดใหญ่
“ดังนั้น การเพิ่มจำนวนกรรมการเป็น 15 คน จึงมีความจำเป็น เพื่อให้มีบุคลากรเพียงพอต่อการจัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยที่เหมาะสมต่อการบริหารงาน” นายลวรณกล่าว
ทั้งนี้ กระบวนการสรรหากรรมการในบริษัทจดทะเบียนมีขั้นตอนชัดเจน ไม่ใช่การแต่งตั้งแบบรัฐวิสาหกิจ โดยผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกิน 5% สามารถเสนอชื่อให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาได้ และรายชื่อสุดท้ายจะเข้าสู่การลงมติในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี (Annual General Meeting: AGM) ปัจจุบันมีรายชื่อในบัญชีพิจารณา (Shortlist) ทั้งสิ้น 17 คน จากการเสนอชื่อในที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยรายชื่อที่กระทรวงการคลังเสนอส่วนใหญ่มาจากภาคเอกชน มีเพียง 1 รายที่มาจากภาคราชการ
นายลวรณ ระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงรายชื่อกรรมการ เพราะอยู่ในขั้นตอนการเสนอชื่อเท่านั้น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือหุ้นเกิน 5% ยังสามารถเสนอชื่อเพิ่มเติมได้ถึงวันที่ 19 ตุลาคม โดยคณะกรรมการสรรหาจะคัดเลือกให้เหลือ 8 รายชื่อสุดท้ายเพื่อเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 23 ตุลาคม ก่อนเสนอเข้าสู่การประชุม AGM
สำหรับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีครั้งแรก ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ จะมีวาระสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ (1) การกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ เนื่องจากคณะกรรมการชุดปัจจุบันทำงานมา 4 เดือนโดยยังไม่ได้รับค่าตอบแทน และ (2) การเสนอเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 คนเป็น 15 คน เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อย
นายลวรณ ย้ำว่า การบินไทยในวันนี้เป็นบริษัทจดทะเบียนเต็มรูปแบบ โดยกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ร้อยละ 38 ไม่มีแผนเพิ่มการถือหุ้น แต่จำเป็นต้องส่งผู้แทนเข้าดูแลผลประโยชน์ เนื่องจากรัฐบาลได้ใส่เงินทุนกว่า 4–5 หมื่นล้านบาทเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งเป็นเงินของประชาชนและภาครัฐ ทั้งนี้ยืนยันว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนอยู่บนหลักธรรมาภิบาลและความโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและสาธารณชน