
“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ ผวาข่าว “สหรัฐ-จีน” เปิดศึกเทรดวอร์ รอบใหม่
ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ รับแรงกดดันจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนปะทุรอบใหม่ หลัง “ทรัมป์” ขู่ขึ้นภาษีนำสินค้าจีน 100% พร้อมควบคุมควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ กังวลผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ต.ค.68) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ สืบเนื่องผลมาจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกระดับความขัดแย้งทางการค้ากับจีน เพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 100% และเตรียมควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญที่ผลิตในสหรัฐฯ โดยดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,852.50 จุด ลดลง 437.82 จุด หรือ -1.67% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 8,857.50 จุด ลดลง 39.53 จุด หรือ -1.01%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่ระดับ 3578.47 จุด ลดลง 32.13 จุด หรือ -0.89% ส่วนดัชนี ASX/S&P 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ที่ระดับ 3578.47 จุด ลดลง 53.10 จุด หรือ -0.57% ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวัน Sports Day
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 10 ต.ค.68 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประกาศยกระดับความขัดแย้งทางการค้ากับจีน โดยเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีก 100% และเตรียมควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อกดดันปักกิ่ง ภายหลังจีนเข้มงวดมาตรการจำกัดการส่งออก “แร่หายาก” ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและกลาโหม
จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,479.60 จุด ลดลง 878.82 จุด หรือ -1.90% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,552.51 จุด ลดลง 182.60 จุด หรือ -2.71% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,204.43 จุด ลดลง 820.20 จุด หรือ -3.56% โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ร่วงลงหนัก นำโดย Nvidia, Tesla, Amazon และ Advanced Micro Devices ที่ลดลงมากกว่า 2%
หลังทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ว่ากำลังพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอย่างมหาศาล พร้อมระบุว่า “ไม่มีเหตุผล” ที่จะพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
ขณะที่ จีนถือเป็นผู้ผลิตแร่หายากและแม่เหล็กแร่หายากกว่า 90% ของโลก ซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เครื่องยนต์อากาศยาน และระบบเรดาร์ทางทหาร การปะทุของสงครามการค้าระลอกใหม่จึงอาจกระทบอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะภาคเทคโนโลยีและพลังงานทางเลือก
หุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก นำโดย Alibaba Group, JD.com และ PDD Holdings ที่ลดลงระหว่าง 5.3% ถึง 8.5% ส่วน Qualcomm ดิ่งลง 7.3% หลังทางการจีนเริ่มสอบสวนการผูกขาดกรณีเข้าซื้อกิจการ Autotalks จากอิสราเอล
ล่าสุดจีนออกแถลงประณามสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (12 ต.ค.) ว่า ภาษีศุลกากรชุดล่าสุดที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าจีนเป็นเรื่องหน้าไหว้หลังหลอก และปกป้องการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายากของตน แต่ยังไม่เริ่มการเรียกเก็บภาษีชุดใหม่ต่อสินค้าของสหรัฐฯ
จีนได้ชี้ถึงการเพิ่มบริษัทจีนเข้าไปในบัญชีดำการค้าของสหรัฐฯ และการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือจากเรือจีนว่าเป็นตัวอย่างของความหน้าไหว้หลังหลอกนี้ พร้อมระบุว่า การกระทำเหล่านี้ส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อผลประโยชน์ของจีนและบ่อนทำลายบรรยากาศการเจรจาเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี ซึ่งจีนคัดค้านอย่างหนัก
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนระบุในแถลงการณ์ว่า การควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายากของจีน ซึ่งทรัมป์จวกเมื่อวันศุกร์ (10 ต.ค.) ว่า น่าตกใจและไม่เป็นมิตรอย่างมาก เกิดขึ้นหลังสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการต่าง ๆ นับตั้งแต่การเจรจาการค้าทวิภาคีที่กรุงมาดริดเมื่อเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม จีนไม่ได้เชื่อมโยงการกระทำเหล่านี้ของสหรัฐฯ กับการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุที่สำคัญโดยตรง โดยกล่าวว่า การควบคุมของตนมีแรงจูงใจมาจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้โลหะเหล่านี้ในทางทหาร ในช่วงเวลาที่ความขัดแย้งทางทหารที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา 12 ต.ค.68 ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ระบุถึงจีนหลังจากที่ประกาศตอบโต้จีนการค้า ขึ้นภาษีนำเข้าจากเป็น 100% แร่หายาก
“อย่ากังวลเรื่องจีน ทุกอย่างจะเรียบร้อย! ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้เป็นบุคคลที่น่าเคารพนับถือ เขาแค่มีช่วงเวลาที่ไม่ดีไปหน่อยเท่านั้น เขาไม่อยากให้ประเทศของเขาตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ผมก็ไม่ต้องการเช่นกัน สหรัฐแค่ต้องการช่วยเหลือจีน ไม่ใช่การทำร้าย”