CGSI อัพเป้า KBANK ใหม่ 196 บาท รับกำไรไตรมาส 3 โตเกินคาด-ปันผลเด่น

KBANK โชว์กำไรไตรมาส 3/68 โต 8.7% แตะ 1.3 หมื่นล้านบาท สูงกว่าคาด ฟาก CGSI ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติต่อหุ้นปี 68-70 และให้ราคาเป้าหมายใหม่ 196 บาท ชี้เงินปันผลเด่น 5.2-6.7% ต่อปี แนะนำ “ซื้อ”


ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 4.2% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ 14.5% และสูงกว่า Bloomberg consensus ถึง 16% โดยกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีคิดเป็น 91.7% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2568

โดยรายได้ที่โดดเด่นเกินคาดในไตรมาสนี้ ได้แก่ รายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโต 10.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 13.5% จากไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงกำไรจากเงินลงทุนและเครื่องมือทางการเงิน ขณะเดียวกัน KBANK ยังมีกำไรก่อนการตั้งสำรอง (PPOP) เติบโต 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สินเชื่อรวมยังหดตัว -0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ -0.8% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือ -2.7% จากสิ้นปี 2567

ด้านผู้บริหาร KBANK เปิดเผยในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ว่าการเติบโตของสินเชื่อทั้งปีอาจต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 0% โดยในไตรมาส 3 สินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ยังเติบโต ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และ SME หดตัวลง 3% และ 4% ตามลำดับ ทั้งนี้ ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพสินเชื่อมากกว่าการขยายพอร์ต โดยลูกหนี้ในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” คิดเป็นราว 1% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 3 และครึ่งหนึ่งของสินเชื่อกลุ่มนี้เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่เหลือเป็นสินเชื่อ SME และสินเชื่อรถยนต์

CGSI ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติต่อหุ้นปี 2568-2570 หลังปรับสมมติฐานส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปี 2568 ขึ้นเป็น 3.37% จาก 3.21% เนื่องจาก NIM ในช่วง 9 เดือนแรกสูงกว่าคาด อีกทั้งปรับอัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขึ้นเป็น 18.1% จาก 6.4% สะท้อนรายได้ค่าธรรมเนียมและกำไรจากเงินลงทุนที่สูงกว่าคาด พร้อมปรับลดสมมติฐานอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลงเหลือ 44% จาก 45% ขณะเดียวกันปรับลดสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อปี 2568 เป็น -3.3% จากเดิม 0% เนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัว

CGSI ปรับปีฐานการประเมินมูลค่าเป็นเดือนธันวาคม 2569 และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 196 บาท จาก 184 บาท คิดเป็น P/BV 0.74 เท่าในปี 2569 โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจ 5.2-6.7% ต่อปี ในช่วงปี 2568-2570 เทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ 3.8% และมีงบดุลแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL coverage ratio) สูงถึง 158%

อย่างไรก็ตาม CGSI เตือนความเสี่ยงด้านขาลงหากคุณภาพสินเชื่อด้อยลงหรือสินเชื่อ Stage 2 เพิ่มขึ้นมาก รวมถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนปัจจัยบวกที่อาจหนุนราคาหุ้นในระยะต่อไปคือการปรับเพิ่มประมาณการกำไรจาก Bloomberg consensus หากธนาคารสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและลดการตั้งสำรองกลับสู่ระดับปกติได้

Back to top button