ผลิตรถยนต์ก.ย.พุ่ง 5% หนุนยอด BEV โตเท่าตัว “ดาโอ” ชี้ Q4 สดใส SAT รับคำสั่งซื้อใหม่

“ส.อ.ท.” เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนก.ย. 68 โต 5% ทะลุ 1.28 แสนคัน รับแรงหนุนยอดขาย-ส่งออกฟื้นตัว ขณะยอดจดทะเบียน BEV โตทะลัก 110% ด้าน “บล.ดาโอ” มองบวกไตรมาส 4/68 สดใสต่อเนื่อง หนุนกลุ่มยานยนต์ฟื้นแกร่ง โดยเฉพาะ SAT รับอานิสงส์คำสั่งซื้อใหม่ คาดกำไรปี 68 โต 5% เคาะราคาเป้าหมาย 13.80 บาท


อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง หลังยอดผลิตเดือนกันยายน 2568 กลับมาขยับขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากฐานต่ำของปีก่อนและแรงหนุนจากกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) ที่เติบโตทะลุเท่าตัว สะท้อนภาพการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมสู่ยุคยานยนต์สมัยใหม่ ขณะที่ตลาดในประเทศและการส่งออกทยอยฟื้นตัว หนุนความเชื่อมั่นต่อทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี

โดยล่าสุดสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (ส.อ.ท.) รายงานว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 128,000 คัน เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน (เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ 14% จากเดือนก่อน (เทียบเดือนก่อนหน้า) กลับมาฟื้นตัวจากฐานต่ำของปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและตลาดส่งออก

ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนกันยายนอยู่ที่ 48,000 คัน เพิ่มขึ้น 24% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 2% เทียบเดือนก่อนหน้า ตามกระแสรถยนต์ไฟฟ้าราคาจับต้องได้ แม้ยอดขายรถกระบะยังลดลง -4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความเข้มงวดด้านสินเชื่อของสถาบันการเงิน

ส่วนยอดส่งออกอยู่ที่ 86,000 คัน เพิ่มขึ้น 7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 21% เทียบเดือนก่อนหน้า จากการส่งออกรถกระบะและ PPV ที่มีบางบริษัทออกรุ่นใหม่และส่งออกเป็นครั้งแรก รถยนต์นั่งไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าส่งออกเพิ่มขึ้น แต่รถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในส่งออกลดลง -17% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะเดียวกันยอดจดทะเบียนใหม่รถยนต์ BEV เดือนกันยายน อยู่ที่ 9,800 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 110% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปี 2568 มียอดจดทะเบียนรวม 87,000 คัน เพิ่มขึ้น 59% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า มองเป็นบวกเล็กน้อยจากยอดผลิตรถยนต์ที่เริ่มกระเตื้องขึ้น ทั้งนี้ยอดผลิตรถยนต์ 9 เดือน จะคิดเป็น 74% จากทั้งปี 2569 ที่ประเมินที่ 1.45 ล้านคัน (ปี 2567 ผลิตรถยนต์ 1.47 ล้านคัน)

สำหรับยอดผลิตรถยนต์ ในช่วงที่เหลือของปีจะยังดีขึ้นได้เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานต่ำปีก่อน โดยจะได้ผลบวกจาก การผลิตรถ BEV ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้าตามเงื่อนไข การเข้าร่วมโครงการภาครัฐ

โดยยอดผลิตรถยนต์ไตรมาส 3/68 ปรับตัวลดลงเทียบช่วงเดียวของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า อาจกดดันกำไรกลุ่มชะลอ ตัว สำหรับยอดผลิตรถยนต์งวดไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 3.5 แสนคัน ลดลง -4% เทียบช่วงเดียวของปีก่อน และลดลง -6% เทียบไตรมาสก่อนหน้า  นับว่าค่อนข้างต่ำ และต่ำกว่าไตรมาส 2/68 ที่เป็นช่วง low season สุดของทุกปี รวมถึงส่วนใหญ่มาจากรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้รถยนต์สันดาปยัง ปรับตัวลดลงมาก ดังนั้นอาจกดดันผลกำไรดำเนินงานของกลุ่ม Automotive ในงวดไตรมาส 3/68 จะมีทิศทางชะลอตัวได้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 จะมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า ตามทิศทางยอดผลิตรถยนต์ที่จะ ดีขึ้นจากฐานต่ำ

โดยกลุ่ม Automotive ยังให้น้ำหนัก underweight ไม่มี top pick โดย SAT แนะนำถือเป้า 13.80 บาท โดยประเมิน SAT กำไรปี 2568 ที่ 733 ล้านบาท (โต 5% YoY) โดยยังได้ผลกระทบจากยอดผลิตรถกระบะที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งเป็นฐานรายได้หลัก แต่จะได้ผลบวกจากคำสั่งซื้อใหม่ และ GPM ที่ดีขึ้นจากการลดต้นทุน

Back to top button