
“กรุงศรี-เอเซีย พลัส” มองบวก “สศค.” อัพ GDP ไทยโต 2.4% หนุนแบงก์-ค้าปลีก-ท่องเที่ยวคึก
“บล.กรุงศรี-เอเซีย พลัส” ประเมินเศรษฐกิจไทยปลายปีสดใส หลัง “สศค.” ปรับเป้า GDP ปี 68 โต 2.4% จากเดิม 2.2% รับแรงหนุนส่งออกโต 19% สูงสุดในรอบ 42 เดือน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐ โบรกชี้หุ้นแบงก์-ค้าปลีก-ท่องเที่ยว รับอานิสงส์เต็ม ชู KTB-SCB-MTC-CPALL-CENTEL เด่นนำตลาด
ทิศทางเศรษฐกิจไทยช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกชัดเจน หลังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ประเทศเป็น 2.4% จากเดิม 2.2% หนุนด้วยแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกที่พลิกกลับมาขยายตัวโดดเด่นถึง 19% สูงสุดในรอบกว่า 3 ปี พร้อมแรงเสริมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ “คนละครึ่ง พลัส” ถึง “เที่ยวดีมีคืน” ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดทุนเริ่มกลับมาคึกคัก
ขณะเดียวกัน 2 โบรกเกอร์ชั้นนำของไทย “บล.กรุงศรี” และ “บล.เอเซีย พลัส” ต่างมองตรงกันว่า การขยับเป้าหมาย GDP ครั้งนี้เป็นสัญญาณบวกสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะชะลอตัวทางเทคนิค (Technical Recession) และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของรอบฟื้นตัวใหม่ในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่ม ธนาคาร ค้าปลีก และท่องเที่ยว ที่จะได้รับแรงหนุนโดยตรงจากกำลังซื้อในประเทศและกระแสเงินทุนต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามาในช่วงปลายปี
โดยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มองบวกปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้เป็นขยายตัว 2.4% จากเดิม 2.2% หนุนจากยอดส่งออกขยายตัวดีเกินคาด โดยเฉพาะเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาไทยมียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 19% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงสุดในรอบ 42 เดือน สวนทางกับที่ตลาดกังวลว่ายอดส่งออกจะเริ่มหดตัวจากผลของภาษีทรัมป์
นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ มาตรการคนละครึ่งพลัส, เที่ยวดีมีคืน ช่วยให้กิจกรรมเศรษฐกิจในช่วงปลายปีดีกว่าที่เคยประเมิน ส่วนปีหน้า สศค. คาด GDP ของไทยจะขยายตัว 2% โตลดลงจากภาคส่งออกที่พลิกเป็นติดลบ 1.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากคู่ค้าเร่งนำเข้าสินค้าจำนวนมาก (front load) เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากภาษีของสหรัฐไปแล้ว
ทั้งนี้มีมุมมองบวกต่อการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้ของ สศค. และเห็นด้วยต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงปลายปีที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดีกว่าที่เคยประเมินไว้ โดยมองเป็นบวกโดยตรงต่อผลประกอบการและจิตวิทยาบวกต่อการลงทุนของหุ้นในกลุ่มการเงิน คือ ธนาคาร และ ไฟแนนซ์ โดย Top Pick คือ KTB, SCB และ MTC ส่วนกลุ่มค้าปลีก Top Pick คือ CPALL และกลุ่มท่องเที่ยว Top Pick คือ CENTEL
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คลังปรับเป้า GDP ปีนี้ขึ้น จาก 2.2% เป็น 2.4% หนุนการเกิด TECHNICAL RECCESSION น้อยลง สศค.ปรับคาดว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 2568 จะขยายตัว 2.4 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดิมที่คาดไว้ 2.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากหลายปัจจัยสนับสนุน ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการ คนละครึ่ง พลัส + การเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ + มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยหนุนการบริโภค ภาคเอกชนในไตรมาส 4, ภาคการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดี
โดยคาดว่าส่งออกในสกุลเงินดอลลาร์จะขยายตัวได้ราว 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะสินค้าไปตลาดสหรัฐฯ และจีน ซึ่งหาก GDP ปีนี้โต 2.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจะหนุน ให้ GDP เทียบไตรมาสก่อนหน้า(QOQ) รายไตรมาส 3-4 จะไม่ติดลบ ซึ่งหนุนการเกิด TECHNICAL RECCESSION น้อยลง
สำหรับกลุ่มหุ้น ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่ม ธพ. กลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม กลุ่ม ท่องเที่ยว-การบิน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามอาจต้องระวังการเติบโตของ GDP ในปี 2569 ที่สศค.ประเมิน โต2.0% เท่านั้น ตามการส่งออกอาจ ติดลบ 1.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อการเติบโต ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าควรระมัดระวัง “แรงหนุน ชั่วคราว” และหาจังหวะเตรียมแผนรองรับในระยะกลาง-ยาว

