
BCP งบ Q3 พลิกกำไร 1.1 พันล้าน รับค่าการกลั่นหนุน-ขาดทุนสต๊อกลด
BCP รายงานงบไตรมาส 3/68 พลิกมีกำไรแตะ 1.1 พันล้านบาท รับค่าการกลั่นพุ่ง-ขาดทุนสต๊อกลดลง รวมถึงต้นทุนทางการเงินลดลง ขณะที่งวด 9 เดือนแรกกำไรแตะ 663 ล้านบาท ลดลง 69%
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
สำหรับ BCP รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/68 พลิกมีกำไรสุทธิ 1,107.90 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 2,093.01 ล้านบาท เป็นผลมาจาก Accounting EBITDA อยู่ที่ 10,269 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นที่มีค่าการกลั่นพื้นฐานเพิ่มขึ้น และบริษัทฯ มีขาดทุนสต๊อก “Inventory Loss” ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีความผันผวนลดลง ขณะที่กลุ่มธุรกิจการตลาดมีค่าการตลาดสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันมี EBITDA เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (มากกว่า 100% จากไตรมาสก่อนหน้า) ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น จากค่าการกลั่นพื้นฐาน (Refining Margin) ที่ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นอยู่ที่ 7.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ได้รับแรงหนุนจากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน (Middle Distillates) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากปริมาณสต็อกน้ำมันดีเซลในสหรัฐฯ และยุโรปอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ประกอบกับการทยอยปิดโรงกลั่นหลายแห่งในยุโรป และความกังวลด้านอุปทานจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
ทั้งนี้ อัตราการกลั่นเฉลี่ยในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 264.9 พันบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 23.3 พันบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หลังจากที่โรงกลั่นศรีราชาดำเนินการชะลอการกลั่นในช่วงก่อนหน้า เพื่อปรับปรุงหน่วยกลั่นตามแผน
นอกจากนี้ บริษัทมี รายได้จากภาษีเงินได้ 1,523 ล้านบาท โดยหลักมาจากกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีการตั้งด้อยค่าบนสินทรัพย์ในแหล่งผลิต Statfjord ซึ่งสามารถชดเชยเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีจากการดำเนินงานได้
สำหรับ รายได้จากการขายและการให้บริการรวม อยู่ที่ 123,305 ล้านบาท ลดลง 20% ส่วนใหญ่มาจากรายได้ที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น กลุ่มธุรกิจการตลาด และกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่ ต้นทุนทางการเงินลดลง 15%
ทั้งนี้ “รายได้ (ค่าใช้จ่าย) อื่นสุทธิ” ไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 1,523 ล้านบาท พลิกกลับมาเป็นบวกจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 7,535 ล้านบาท สะท้อนประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและรายการพิเศษที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ.
ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 68 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 663.09 ล้านบาท ลดลง 69.41% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,167.51 ล้านบาท


