
“ศุภจี” สั่งคุมเข้มรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ คาดผลผลิตฤดูกาล 68/69 พุ่ง 8%
รมว.พาณิชย์ นำประชุมบอร์ด นบขพ. สั่งคุมเข้มการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ ห้ามกดราคา–หักชื้นเกินจริง ปูพรมตรวจเข้มรับมือผลผลิตฤดูกาล 68/69 ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นราว 8% รองรับความต้องการอุตสาหกรรมอาหารสัตว์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการดูแลสินค้าเกษตรทุกชนิด โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ จำเป็นต้องบริหารจัดการแบบรอบด้าน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาควบคู่กับต้นทุนของเกษตรกร โดยไม่ให้ส่งผลกระทบเกินจำเป็นต่อผู้เลี้ยงสัตว์และผู้บริโภคในระยะยาว
กระทรวงพาณิชย์ได้รับฟังข้อมูลและข้อเสนอจากทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูป และสมาคมการค้าพืชไร่ เพื่อกำหนดแนวทางร่วมในการรักษาเสถียรภาพราคาและตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในภาพรวม ขณะเดียวกัน จากรายงานสถานการณ์ล่าสุดพบว่าอยู่ในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดปริมาณมาก จึงต้องเข้าดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการจำหน่ายผลผลิต
กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่ต้นฤดูกาล ตรวจทั้งราคารับซื้อ การหักความชื้น สิ่งเจือปน และความเที่ยงตรงของเครื่องชั่งทุกจุดรับซื้อ เพื่อป้องกันการเอาเปรียบเกษตรกร
“ในช่วงที่ผลผลิตออกกระจุกตัว ได้สั่งระดมตรวจเข้มการรับซื้อในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่พบการรับซื้อติดขัด หากพบสิ่งผิดปกติสามารถแจ้งโดยตรงเพื่อลงตรวจสอบได้ทันที ขอให้เกษตรกรเชื่อมั่นว่าจะมีการซื้อขายที่เป็นธรรม” นางศุภจี กล่าว
ด้านนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ยังคงราคารับซื้อจากเกษตรกรสำหรับข้าวโพดสดความชื้น 30% ที่ 7.05 บาทต่อกิโลกรัม และราคารับซื้อหน้าโรงงานอาหารสัตว์สำหรับข้าวโพดแห้งความชื้น 14.5% อยู่ที่ 9.80 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาจะขึ้นอยู่กับแหล่งผลิตและระยะทาง ซึ่งเป็นระดับราคาที่สะท้อนต้นทุนจริงของเกษตรกร
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกำกับดูแลการรับซื้อในพื้นที่อย่างเข้มงวด หากพบการกดราคา หักความชื้นเกินจริง หรือพฤติกรรมไม่เป็นธรรม จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
สำหรับผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2568/69 คาดว่ามีประมาณ 5.36 ล้านตัน เพิ่มขึ้นราว 8% จากปีก่อน จากสภาพน้ำและอากาศเอื้ออำนวย และการปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกของเกษตรกร โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่า จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดราว 34% ของผลผลิตทั้งปี ขณะที่ความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ปี 2568 อยู่ที่ 9.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นราว 2% จากปีก่อน ตามการขยายตัวของภาคปศุสัตว์
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณายกเว้นมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวสาลีสำหรับผู้ผลิตอาหารกุ้ง ปี 2569 จำนวน 6 ราย ปริมาณรวม 134,356 ตัน หลังกรมประมงตรวจสอบปริมาณใช้จริงแล้ว โดยการยกเว้นดังกล่าวเป็นแบบรายปี และต้องไม่กระทบต่อเสถียรภาพราคาวัตถุดิบภายในประเทศ
ที่ประชุม นบขพ. ได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้ นบขพ. รวม 5 คณะ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรัดกุมในการบริหารจัดการทั้งระบบ ได้แก่
- คณะอนุกรรมการพิจารณาชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อก
- คณะอนุกรรมการบริหารจัดการระดับจังหวัด
- คณะอนุกรรมการติดตามสถานการณ์ตลาดและวัตถุดิบทดแทน
- คณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2568–2572
- คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าในกรอบ WTO
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ครม. ขยับโควตานำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สหรัฐ เปิดเอกชนใช้เกณฑ์ซื้อผลผลิตไทย 3 ต่อ 1

