“ฟินันเซีย ไซรัส” ชี้ส่งออกไก่แปรรูปโต 9.7% หนุน GFPT รับอานิสงส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เผยว่า การส่งออกสินค้าเกษตรเดือนกันยายนหดตัว 8.1% จากปีก่อน โดยหมวดข้าวและผลไม้ลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ไก่แปรรูปยังเติบโต 9.7% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 จากคำสั่งซื้อในญี่ปุ่นและยุโรป หนุนบวกต่อกลุ่มผู้ผลิตไก่ โดยเฉพาะ GFPT
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ต.ค.68) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSSIA เปิดเผยบทวิเคราะห์จากสถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยประจำเดือนกันยายน 2568 ว่า การส่งออกในหมวดดังกล่าวมีมูลค่าลดลง 8.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ยังอยู่ในภาวะหดตัว
ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าเกษตรลดลง 18.2% ขณะที่อุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 4.1% สะท้อนถึงความแตกต่างระหว่างสินค้าพื้นฐานทางการเกษตรที่ยังเผชิญแรงกดดันกับสินค้าที่ผ่านกระบวนการแปรรูปซึ่งยังคงเติบโตได้
สำหรับสินค้าที่ขยายตัวเด่นในเดือนกันยายน ได้แก่ ไก่แปรรูป เพิ่มขึ้น 9.7% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 19 จากคำสั่งซื้อในตลาดญี่ปุ่นและยุโรป เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มผู้ผลิตไก่ โดยเฉพาะบริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT
นอกจากนี้ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ขยายตัว 37.8% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง จากตลาดหลักอินเดีย จีน และมาเลเซีย ส่วน ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 11.1% และ น้ำตาลทราย กลับมาขยายตัว 42.8% หลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า
กุ้งสดแช่เย็นและแช่แข็ง เพิ่มขึ้น 5.9% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า และ อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว 2.9% หลังจากกลับมาฟื้นตัว โดยเฉพาะอาหารสุนัขและแมวมีมูลค่าการส่งออก 238.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นทั้งเมื่อเทียบรายเดือนและรายปี
ขณะที่สินค้าหลายรายการยังอยู่ในภาวะหดตัว ได้แก่ ข้าว ลดลง 31.4% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11, ยางพารา ลดลง 15.3% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยตลาดหลักอย่างญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และเวียดนามมีการนำเข้าลดลง แม้ตลาดจีนจะยังขยายตัวบางส่วน
ส่วนผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ลดลง 55.5% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง จากคำสั่งซื้อที่ลดลงในจีน สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และดูไบ
สำหรับ เครื่องดื่ม ลดลง 8% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง โดยหดตัวในตลาดจีน กัมพูชา และอินโดนีเซีย แม้ตลาดเวียดนาม เมียนมา และมาเลเซียยังเติบโตบางส่วน ขณะที่ เครื่องดื่มชูกำลัง ลดลงร้อยละ 1.4 โดยยอดส่งออกไปกัมพูชาในเดือนกันยายนอยู่ที่ศูนย์ ส่วนตลาดเวียดนามและเมียนมากลับมาขยายตัว 11% และ 71.7% ตามลำดับ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ภาพรวมการส่งออกหมวดสินค้าเกษตรยังมีความเปราะบาง จากราคาสินค้าเกษตรโลกที่ผันผวนและความต้องการในตลาดหลักที่ชะลอตัว โดยเฉพาะจีนและสหรัฐอเมริกา ขณะที่สินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มและผ่านการแปรรูปยังเป็นแรงหนุนสำคัญของภาคการส่งออกเกษตรไทยในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ตัวเลขการส่งออกในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรดังกล่าวเคลื่อนไหวสวนทางกับภาพรวมการส่งออกของไทยที่กระทรวงพาณิชย์รายงานก่อนหน้า ซึ่งระบุว่าการส่งออกเดือนกันยายนขยายตัวร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปีก่อน มูลค่าแตะ 30,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบ 42 เดือน สะท้อนว่าการฟื้นตัวของการส่งออกไทยในขณะนี้ยังไม่กระจายทั่วทุกหมวดสินค้า