ครม.ตั้ง “รวีวรรณ ภูริเดช” ปลัด ทส. คนใหม่ ชูดีกรีผลักดันมรดกโลก 3 แห่งสำเร็จ

ครม.ไฟเขียวมติสลับขั้วข้าราชการระดับสูง “รวีวรรณ ภูริเดช” ผอ.สคทช. ถูกโอนนั่งปลัด ทส.คนใหม่ ชูดีกรีลูกหม้อเก่าและผู้ผลักดันมรดกโลกไทย 3 แห่งสำเร็จ พร้อมโยก “ชญานันท์ ภักดีจิตต์” ปลัดคนเก่าที่เพิ่งนั่งเก้าอี้ 3 เดือน ไปเป็น ผอ.สคทช. มีผลหลังโปรดเกล้าฯ


ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 68 ได้มีมติที่สำคัญเกี่ยวกับการโยกย้ายและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญระดับสูง โดยอนุมัติการสลับตำแหน่งระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)

นางรวีวรรณ ภูริเดช ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)สำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับอนุมัติให้โอนและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แทน

ขณะเดียวกัน ครม. ยังได้อนุมัติให้รับโอน นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคนเดิม ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) สำนักนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ การรับโอนนางรวีวรรณมาเป็นปลัด ทส. ได้รับความเห็นชอบจากรองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งกำกับการบริหารราชการกระทรวง ทส. ส่วนการโอนนางชญานันท์ไป สคทช. ได้รับความเห็นชอบจากรองนายกรัฐมนตรี นายโสภณ ซารัมย์ ซึ่งกำกับการบริหารราชการ สคทช. มติ ครม. ทั้งหมดนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

ประวัติและผลงานเด่นของปลัด ทส. คนใหม่

นางรวีวรรณ ภูริเดช หรือ “ดร.ติ๊ก” ถือเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญและเคยเป็น ลูกหม้อของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาก่อน ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สคทช. ในปี 2564

ด้านการศึกษา เธอจบปริญญาตรี วิศวกรรมบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) สาขาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก (Ph.D.) สาขา Civil and Environmental Engineering จาก University of Wisconsin, Madison สหรัฐอเมริกา

ประสบการณ์ทำงานที่สำคัญ นางรวีวรรณเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ระหว่างปี 2558 ถึง 2564 โดยมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ, ด้านการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA), ด้านการจัดการมรดกโลก, การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ, และด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

ผลงานสำคัญที่โดดเด่น คือ การผลักดันขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของประเทศไทยสำเร็จถึง 3 แห่ง ได้แก่

  1. กลุ่มป่าแก่งกระจาน (ขึ้นทะเบียน พ.ศ. 2564)
  2. เมืองโบราณศรีเทพ (ขึ้นทะเบียน พ.ศ. 2566)
  3. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท (ขึ้นทะเบียน พ.ศ. 2567)

นอกจากนี้ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ผอ.สคทช. (2564–ปัจจุบัน) ได้มีผลงานสำคัญด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน โดยมีการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ (One Map) และการจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนที่ไร้ที่ดินทำกินตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งได้ดำเนินการจัดราษฎรเข้าทำประโยชน์แล้วประมาณ 1.9 แสนครอบครัว หรือประชาชนประมาณ 1.1 ล้านคน.

Back to top button