
“สุเชษฐ์” คัด 5 หุ้นเด่น จับตา “การเมืองไทย” สัปดาห์หน้า ชี้ทิศทางตลาด
“สุเชษฐ์ สุขแท้” แนะจับตาสถานการณ์การเมืองไทยช่วงสัปดาห์หน้า อาจชี้ทิศทางตลาดหุ้นไทย พร้อมแนะ 5 หุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่ CCET, MINT, CPN, PTT และ TASCO
นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (ASL) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (2 ธันวาคม 2568) ว่า มองแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,250 จุด และแนวต้านหลักที่ 1,280 จุด พร้อมประเมินว่า หากตลาดสามารถประคองตัวในช่วงเช้า และยืนได้ในช่วงตลาดยุโรปเปิดเวลา 15.00 น. มีโอกาสเห็นดัชนีแตะระดับ 1,275 จุด
ด้านหุ้นรายตัว แนะนำ CCET เป็นหุ้นลักษณะเก็งกำไรแกว่งตัวแรง หลังวานนี้ราคาย่อลงถึง 4.94 บาทก่อนรีบาวด์ โดยมีเป้าหมายการฟื้นตัวที่ 5.50 บาท หากผ่านระดับดังกล่าวควรระมัดระวังการแกว่งตัวบริเวณ 6 บาท, MINT ปิดที่ 22.70 บาท โดยให้แนวต้านที่ 23.50–24.00 บาท หากผ่านได้สะท้อนสัญญาณบวกต่อภาคท่องเที่ยว ขณะที่แนวรับแบ่งเป็น 2 ระดับคือ 22.70 บาท และ 22.30 บาท,
CPN ปิดที่ 54 บาท โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 60 บาท ส่วนแนวรับหลักอยู่ที่ 51.50 บาท ซึ่งประเมินว่าการย่อลงลึกมีโอกาสเกิดขึ้นได้จำกัด, PTG ในรอบ 3 เดือนมีแนวรับสำคัญที่ 31.30 บาท และแนวต้านบริเวณ 32.50–33 บาท เหมาะกับการเล่นรอบ
สำหรับหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง มองว่ามีโอกาสฟื้นตัวตามข่าวน้ำท่วมภาคใต้ที่ส่งผลให้ความต้องการซ่อมแซมและก่อสร้างเพิ่มขึ้น, TASCO มองแนวต้าน 14.50–15.00 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 14.00 และ 13.50 บาท
นายสุเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดภูมิภาคเช้าวันนี้เคลื่อนไหวเชิงบวกเกือบทุกประเทศ สะท้อนบรรยากาศการลงทุนที่เริ่มดีขึ้น โดยมองว่าเป็นรอบการเล่นรีบาวด์ของตลาดในภาพรวม
สำหรับมุมมองต่อเดือนธันวาคม ปัจจัยสำคัญที่สุดยังเป็น “เสถียรภาพทางการเมือง” โดยเฉพาะเหตุการณ์วันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งนักลงทุนจำนวนมากเริ่มคาดหวังว่าจะผ่านไปได้อย่างราบรื่น หากความชัดเจนเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือน ตลาดช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคมถึงต้นปีหน้า มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี แม้ปริมาณการซื้อขายอาจไม่หนาแน่นจากเทศกาลคริสต์มาส
พร้อมกันนี้ยังกล่าวถึงปรากฏการณ์ Prop Trade ที่มีบทบาทโดดเด่นในช่วง 2–3 วันที่ผ่านมา โดยมียอดซื้อสุทธิเกิน 1,000 ล้านบาทต่อวัน โดยมองว่ากลุ่มพร็อพเทรดเข้ามา “ทำกำไรจริง” ไม่ได้สะท้อนสัญญาณพิเศษอื่นใด ขณะที่กองทุนในประเทศยังคงระมัดระวังต่อปัจจัยการเมือง แม้หุ้นขนาดใหญ่ส่วนใหญ่มีผลประกอบการแข็งแกร่งและหลายตัวอยู่ในภาวะกำไร
ทั้งนี้มองว่าเมื่อเสถียรภาพการเมืองกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งพร็อพเทรดและกองทุนจะทยอยกลับมาเคลื่อนไหวในลักษณะสอดคล้องกับปกติ ขณะที่ภาพรวมของตลาดไทยในระยะกลางยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยแนวโน้มในเดือนมกราคม–กุมภาพันธ์ 2569 จะดีขึ้นกว่าปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ หากปัจจัยการเมืองคลี่คลายไปในทิศทางบวก
