
SCB EIC มอง “กนง.” ลดดอกเบี้ยอีกครั้งครึ่งแรกปี 69 หลังเศรษฐกิจชะลอตัว
SCB EIC ประเมิน กนง. ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินชัด หลังลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.25% ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอ เงินเฟ้อต่ำ และความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 1.50 เหลือร้อยละ 1.25 เพื่อผ่อนคลายภาวะการเงินท่ามกลางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างชัดเจนและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายบรรเทาภาระหนี้ของกลุ่มเปราะบาง เสริมประสิทธิผลของมาตรการทางการเงิน และคงความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายภายใต้ข้อจำกัดของพื้นที่นโยบาย พร้อมคำนึงถึงเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาว
คณะกรรมการประเมินว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลงจากการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแรงตามรายได้ การส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา รวมถึงปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติม ได้แก่ สถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ที่อาจกดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า และความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจทำให้งบประมาณปี 2027 ประกาศใช้ล่าช้า ด้านเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้คาดเฉลี่ยติดลบและยังไม่เข้าสู่กรอบเป้าหมายในปีหน้า จากราคาพลังงานโลกที่ปรับลดลงและมาตรการอุดหนุนของภาครัฐ ขณะที่ความเสี่ยงเงินฝืดยังไม่สูงมาก
ด้านภาวะการเงิน สินเชื่อมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอและความระมัดระวังของสถาบันการเงิน ขณะที่เงินบาทแข็งค่านำสกุลเงินภูมิภาคตามแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกาและปัจจัยเฉพาะของไทย โดยคณะกรรมการระบุปัจจัยติดตามสำคัญสามประเด็น ได้แก่ มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาที่อาจเพิ่มเติม การขยายตัวของสินเชื่อและการแข็งค่าของเงินบาท และความเสี่ยงเงินฝืด
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่าการสื่อสารครั้งนี้มีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น โดยคณะกรรมการเน้นความเสี่ยงเชิงลบของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า มองเศรษฐกิจปี 2027 ฟื้นตัวแต่ยังต่ำกว่าศักยภาพ พร้อมเริ่มสื่อสารการติดตามความเสี่ยงเงินฝืดอย่างใกล้ชิดจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ในประเทศ และแสดงความกังวลต่อเงินบาทแข็งค่านำภูมิภาค รวมถึงการพิจารณามาตรการลดแรงกดดันดังกล่าว ซึ่งโดยปกติไม่ปรากฏในถ้อยแถลง
สำหรับแนวโน้มดอกเบี้ย ศูนย์วิจัยฯ ประเมินว่ามีโอกาสลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งภายในครึ่งแรกของปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าศักยภาพต่อเนื่อง โดยคาดปี 2026 ขยายตัวร้อยละ 1.5 และช่วงปี 2025–2027 เติบโตเฉลี่ยเพียงร้อยละ 2.0 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานอาจกดดันกำไรธุรกิจและรายได้ครัวเรือน เพิ่มความเสี่ยงภาวะหนี้ฝืด นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงจึงมีบทบาทลดต้นทุนทางการเงิน บรรเทาภาระหนี้ และช่วยยกเงินเฟ้อให้สูงขึ้น โดยคาดดอกเบี้ยนโยบายอาจปรับลงสู่ร้อยละ 1.0 ภายในครึ่งแรกของปี 2026

