KKP ปิดจ๊อบซื้อหุ้นคืน วงเงินเฉียด 1 พันล. เก็บ 15.87 ล้านหุ้น

KKP ปิดจ๊อบซื้อหุ้นคืน! ควักเงิน 999 ล้านบาท เก็บ 15.87 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.88 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด


ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 8/2568 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินของธนาคาร โดยกำหนดจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 16,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 1.89 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร ภายใต้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 4 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2569

ต่อมา ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติให้แก้ไขวันสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 2 มีนาคม 2569 เป็นวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ตามรายละเอียดที่ปรากฏในแบบรายงานการเปิดเผยการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Form TS-1.2) ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2568 และแบบรายงานการแก้ไขหรือยกเลิกโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Form TS-3) ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2568

ธนาคารขอแจ้งให้ทราบว่า โครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 โดยธนาคารได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนรวมทั้งสิ้นจำนวน 15,876,800 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 1.88 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 999,967,325.81 บาท

ทั้งนี้ ตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ธนาคารจะสามารถจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้ภายหลังพ้นกำหนด 3 เดือนนับจากวันสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืน แต่ต้องไม่เกิน 3 ปี นับจากวันสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนดังกล่าว โดยธนาคารอาจขอขยายระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้อีกไม่เกิน 2 ปี ทั้งนี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ในการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของธนาคารย้อนหลัง 3 เดือนก่อนวันที่คณะกรรมการธนาคารมีมติให้จัดประชุมผู้ถือหุ้นต่ำกว่าราคาซื้อคืนเฉลี่ย

หากครบกำหนดระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนแล้ว ธนาคารไม่จำหน่ายหรือจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนไม่หมด กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดให้ธนาคารต้องดำเนินการลดทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว โดยวิธีการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนและยังไม่ได้จำหน่ายทั้งหมด

สำหรับกำหนดระยะเวลาและวิธีการในการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ธนาคารจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อพิจารณาอีกครั้ง และจะแจ้งให้ทราบต่อไป

Back to top button