คัด 4 หุ้น “กลุ่มลิสซิ่ง” แรงได้อีกเยอะ!ชู 3 ปัจจัยบวก อัพไซด์สูง-ดันราคาพุ่ง

4 หุ้น“กลุ่มลิสซิ่ง”แรงได้อีกเยอะ! ชู 3 ปัจจัยบวก ราคาเด่น-อัพไซด์สูง


ช่วงนี้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบไตรมาส 3/59 แน่นอนหุ้นกลุ่มลีสซิ่งถือเป็นกลุ่มที่น่าจับตาในเวลานี้ เนื่องจากมีปัจจัยบวกหลายด้านเข้ามาหนุนให้หุ้นกลับมาน่าติดตามและน่าลงทุน อาทิ

-นโยบายรัฐบาลที่เดินหน้ากระตุ้นรากหญ้าต่อเนื่อง เห็นได้จากล่าสุด ครม. ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้น รากหญ้าเพิ่มเติม  ระยะที่ 2 คือ  จัดสรรเงินสู่หมู่บ้านทั่วประเทศๆละ 2.5 แสนบาท  ผ่านงบกลางปี 2560 วงเงินรวม 1.87 หมื่นล้านบาท ตรงนี้ถือเป็นผลดีต่อหุ้นลิสซิ่งอย่างแน่นอน 

-อีกทั้งบริษัทหลักทรัพย์เน้นลงทุนกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล เพราะกำไรแบงก์ที่ลดลง สะท้อนถึง ภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ช้า ซึ่งจะเป็นบวกต่อสินเชื่อกลุ่ม Non-bank เพราะเมื่อเศรษฐกิจชะลอ NPL เพิ่ม แบงก์จะมีการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่ Non-bank ที่ได้ประโยชน์

-ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ที่คาดว่าโดดเด่นและสดใสไปจนถึงไตรมาส 4/59

ดังนั้น ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำรวจราคาหุ้นกลุ่มลีสซิ่งที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวจากบทวิเคราะห์หลายสำนักมานำเสนอ โดยหุ้นที่โดดเด่นครั้งนี้คือ ASK ([email protected]) , MTLS ([email protected]) และ SAWAD ([email protected]) และเลือกเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มฯขณะเดียวกันหุ้นที่ได้รับประโยชน์มากสุด คือ LIT(FV@B20) เพราะเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนให้กับผู้รับเหมาโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กในชุมชน ซึ่งหุ้นดังกล่าวมีราคาเป้าหมายที่โดดเด่นและมีอัพไซด์ค่อนข้างสูงทุกตัว”ดังตารางประกอบ”

หลักทรัพย์ โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาปิด ณ 26 ต.ค.   (บาท) ราคาเป้าหมาย (บาท) อัพไซด์ (%)
SAWAD บล.เอเซีย พลัส  ซื้อ 40.00 55.50 38.75
MTLS บล.เอเซีย พลัส  ซื้อ 19.50 27.50 41.03
ASK บล.เอเซีย พลัส  ซื้อ  21.30 29.30 37.56
LIT บล.เอเซีย พลัส  ซื้อ 11.50 20.00 73.91

  

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า รัฐเดินหน้ากระตุ้นรากหญ้าต่อ ดีต่อหุ้นลิสซิ่ง โดยวานนี้(25 ต.ค.)ที่ประชุม  ครม. ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้น รากหญ้าเพิ่มเติม  ระยะที่ 2 คือ  จัดสรรเงินสู่หมู่บ้านทั่วประเทศๆละ 2.5 แสนบาท  ผ่านงบกลางปี 2560 วงเงินรวม 1.87 หมื่นล้านบาท  (เทียบกับการจัดสรรเงินหมู่บ้าน ระยะที่ 1  หมู่บ้านละ 2 แสนบาท วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท)  เริ่มโครงการตั้งแต่ พ.ย.59- ม.ค.60

โดยมีเงื่อนไขคือ ผู้ที่ขอเงินจากโครงการต้องนำไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ซ้ำกับโครงการที่ได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี เช่น การซ่อมแซมอาคารโรงเรียน ศาลาวัด หรือห้ามจัดซื้อครุภัณฑ์   

แม้ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุน แต่เชื่อว่าเป็น sentiment เชิงบวก เพราะเท่ากับ เป็นการเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบฯ และเพิ่มกำลังซื้อโดยรวม เชื่อว่าน่าจะดีต่อผู้ปล่อยสินเชื่อ (leasing) (ผู้กู้มีเงินผ่อนชำระ และหนี้เสียน่าจะไม่เพิ่มขึ้น) โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์มากสุด คือ LIT(FV@B20) เพราะเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนให้กับผู้รับเหมาโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กในชุมชน    

กลุ่มลิสซิ่ง คาดว่าผลกำไรจะทำจุดสูงสุด นำโดย สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกซึ่งเติบโตตามภาคการก่อสร้างจากการลงทุนของภาครัฐที่น่าจะทยอยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี ทำให้เกิดความต้องการรถบรรทุกมากขึ้น

อีกกลุ่มคือสินเชื่อรถจักรยานยนต์ ตามยอดขายรถจักรยานยนต์ที่กระเตื้องขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลขายปลายปี และการอัดฉีดเงินภาครัฐดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นในลักษณะเดียวกันซึ่งดีต่อผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อย  คือ ASK ([email protected]) , MTLS ([email protected]) และ SAWAD ([email protected]) และเลือกเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มฯ

 

บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กลยุทธ์แนะนำซื้อเล่นรอบ หุ้นที่มีโอกาสจะประกาศงบดีขึ้น หรือ ดีกว่าคาด โดยพิจารณาจากกำไรของกลุ่มที่ประกาศงบไปแล้ว ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางกำไรของกลุ่มที่เชื่อมโยง

โดยาแนะนำ ธีมหุ้น เช่น กลุ่ม Non-bank เน้นกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล เพราะกำไรแบงก์ที่ลดลง สะท้อนถึง ภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ช้า ซึ่งจะเป็นบวกต่อสินเชื่อกลุ่ม Non-bank เพราะเมื่อเศรษฐกิจชะลอ NPL เพิ่ม แบงก์จะมีการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น และส่วนใหญ่ Non-bank ที่ได้ประโยชน์ แนะนำ MTLS เพราะวางกลยุทธ์ปล่อยสินเชื่อ เกาะไปกับแบงก์โดยตรง            

(+) MTLS คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 มีโอกาสจะโตดีกว่าตลาดคาด เบื้องต้นคาดกำไร 330 ล้านบาท +50% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +10% q-q. เป็นผลจาก กลยุทธ์ที่เกาะไปกับลูกค้ากลุ่มแบงก์ หนุนสินเชื่อโต 13% q-q, 78% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 1.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ NIM คาดทรงตัว 21% 

 (+) SAWAD คาดกำไร 490 ล้านบาท +13% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +32% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนโตตามสินเชื่อที่ขยายตัว +10% เทียบไตรมาสก่อนหน้า, +32% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการขยายสาขาในช่วงที่ผ่านมา 

 

บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ภายใต้ภาวะตลาดหุ้นไทยที่มี Upside จำกัดและไร้ปัจจัยชี้นำ อีกทั้งต้องระวังแรงขายจากต่างชาติ นักลงทุนระยะสั้นแนะนำให้ ทยอยขายทำกำไรและปรับลดน้ำหนักพอร์ต แต่หากดัชนีย่อให้ซื้อคืนโดยเน้นรอบเทรดให้เร็วขึ้นและกำหนดจุดลดความเสี่ยงทุกกรณีหากดัชนีปรับลงถึง 1,460 จุด ขณะที่นักลงทุนระยะกลาง-ยาว แนะนำ “Selective Buy” ดังนี้กลุ่มที่คาดงบไตรมาส 3/59 มีกำไรโตเด่นเกิน 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน :SAWAD, MTLS

MTLS (BUY:[email protected]): ด้วยกลยุทธ์เร่งขยายสาขาใหม่คาดหนุนช่วง ไตรมาส 3/59 พอร์ตสินเชื่อโต 81.9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและจะสร้างสถิติกำไรใหม่ที่ 330 ลบ. โต 50%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนส่วนช่วงไตรมาส 4 4Q59 คาดโตสดใสต่อทั้ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ เทียบไตรมาสก่อนหน้าช่วยหนุนให้ปี 59 คาดกำไรโต 51.5%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและโต 46.0%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 60 ส่วน NPL ratio ยังอยู่ระดับต่ำ + Upside 68.5% จึงคงแนะนำ “ซื้อ”

SAWAD (BUY:TP@65): ช่วงไตรมาส 3/59 คาดกำไรโตเด่น 35.0%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากพอร์ตสินเชื่อที่คาดขยายตัว 44.4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ NIM ที่ยังทรงตัวสูง อีกทั้งคาดรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยยังโต 32.7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนส่วนทั้งปี 59 คาดกำไรโต 37.7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและโตต่อ 32.2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 60 ทั้งนี้จากศักยภาพทำกำไรที่ยังโดดเด่นและราคาหุ้นยังมี Upside 62.5% จึงคงแนะนำซื้อ

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button