SKN ลุ้นเทรดสนั่น 9.60 บาท โชว์พื้นฐานแน่น-อนาคตโตแกร่ง

SKN ลุ้นเทรดสนั่น 9.60 บาท จากราคา IPO ที่ 7.35 บาท/หุ้น โชว์พื้นฐานแน่น-กำลังการผลิตสูง ด้าน โบรกฯ ชี้อนาคตธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (26 ก.ย.) บริษัท ส.กิจชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SKN จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก โดยเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 200,000,000 หุ้น  มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาทต่อหุ้น ที่ราคา IPO หุ้นละ 7.35 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ด้าน นายวิชัย แสงวงศ์กิจ กรรมการผู้จัดการ SKN เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตแผ่นไม้เอ็มดีเอฟแห่งเดียว ตั้งอยู่ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีขนาดที่ดินรวมประมาณ 144 ไร่ 3 งาน 13 ตารางวา มีสายการผลิตเดียว และมีกำลังการผลิตแผ่นไม้เอ็มดีเอฟสูงสุดที่ประมาณ 20,000 ลูกบาศก์เมตร/เดือน หรือประมาณ 240,000 ลูกบาศก์เมตร/ปี

โดยตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นมา โรงงานมีอัตราการใช้กำลังผลิตเฉลี่ยอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด และปัจจุบันได้ใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 80-90% ของกำลังการผลิตในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้า โดยกำลังการผลิตในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับเกือบเต็มที่แล้ว ในไตรมาส 2/60 มีกำลังการผลิตแตะที่ระดับ 90% ทำสถิติสุดตั้งแต่เริ่มธุรกิจมา

ขณะที่ทิศทางการเติบโตของแผ่นไม้เอ็มดีเอฟในตลาดโลกเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 11% สูงกว่าการเติบโตของแผ่นไม้ทดแทนธรรมชาติในรูปแบบอื่นๆ ที่เติบโตเพียง 4% ขณะที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกแผ่นไม้เอ็มดีเอฟชั้นนำ ดังนั้น เพื่อรับโอกาสการเติบโต บริษัทได้ขยายกำลังการผลิตในพื้นที่โรงงานเดิม

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จำนวน 1,470 ล้านบาท จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ระยะยาวจำนวน 650-750 ล้านบาท สนับสนุนให้ D/E บริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากงวดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา D/E อยู่ที่ 1.57 เท่า รวมทั้งนำไปใช้ลงทุนขยายกำลังการผลิต 500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สนับสนุนให้ในช่วงกลางไตรมาส 3/61 บริษัทจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 500,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ปลดล็อคข้อจำกัดในการเติบโต และสามารถต่อยอดโครงการอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อีกมากมาย สนับสนุนให้ผลประกอบการบริษัทเติบโตแข็งแกร่ง และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในอนาคต

“มั่นใจว่าหุ้น SKN จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนจนยืนเหนือราคาจองได้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่า เป็นผลจากราคาขายไอพีโอที่ 7.35 บาทต่อหุ้น เป็นราคาที่น่าสนใจ และในช่วงเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก”นายวิชัย กล่าว

 

ขณะที่ นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด หรือ บล.ทิสโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของ SKN เปิดเผยว่า มั่นใจว่า หุ้น SKN เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก ราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 7.35 บาท/หุ้นได้

ทั้งนี้เป็นผลมาจากธุรกิจมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน รวมถึงนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีความสนใจจองซื้อหุ้นเข้ามาล้นถึง 15 เท่า ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาสามารถปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้อย่างน่าประทับใจ ขายไอพีโอหมดเกลี้ยงทั้งจำนวน จึงมั่นใจว่า SKN จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับจุดเด่นของธุรกิจ SKN ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกแผ่นไม้เอ็มดีเอฟชั้นนำของประเทศที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง จากความเข้มแข็งของทีมบริหารซึ่งอยู่ในวงการธุรกิจไม้มายาวนาน ทำให้มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี รวมถึงที่ตั้งของโรงงานที่อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตมีเทคโนโลยีทันสมัย ความสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 59 มีอัตรากำไรขั้นต้น 36.72% อัตรากำไรสุทธิ 17.60%

ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพการผลิตมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยจากการทำวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการแผ่นไม้เอ็มดีเอฟที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี จึงเชื่อว่าหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ SKN จะเป็นอีกบริษัทจดทะเบียนคุณภาพที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและน่าจับตามอง

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก หลังปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักร ทำให้บริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นถึง 90% โดยปัจจุบันบริษัทมีรายได้หลักมาจากการขายไม้เอ็มดีเอฟ โดยรายได้รับเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 90% เพราะส่วนใหญ่ลูกค้ามาจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังได้ทำการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินตามสัดส่วนของมาร์จิ้นในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ประมาณ 30%

อนึ่ง SKN เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นไฟเบอร์บอร์ดความหนาแน่นปานกลาง (Medium Density Fiberboard) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า แผ่นไม้เอ็มดีเอฟ ซึ่งเป็นแผ่นไม้ทดแทนไม้ธรรมชาติ (Wood-based Panel) ประเภทหนึ่ง

สำหรับผลประกอบการประจำปี 59 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 262.58 ล้านบาท ลดลง 25.85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 354.13 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/60 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 71.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 65.89 ล้านบาท ขณะที่ 6 เดือนแรกมีกำไร 103.71 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 139.52 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่าราคาหุ้น SKN เข้าซื้อขายในวันแรก (26 ก.ย.) มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นถึง 9.60 บาท จากราคา IPO ที่ 7.35 บาท โดยคำนวณจากค่า P/E ที่ระดับ 40 เท่า และกำไรต่อหุ้นที่ 0.24 บาท โดยมองว่า SKN เป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพการผลิตมาเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการแผ่นไม้เอ็มดีเอฟที่เติบโตต่อเนื่องทุกปี จึงเชื่อว่า SKN จะเป็นบริษัทที่มีคุณภาพและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี

Back to top button