WP คืนสังเวียนเทรด ลุ้นราคาวิ่งกระฉูด 8 บ. รับศักยภาพเติบโตสูง!

WP คืนสังเวียนเทรดวันแรก (1 ก.พ.) ลุ้นราคาวิ่งกระฉูด 8 บ. รับศักยภาพเติบโตสูง! เล็งบุกตลาดต่างประเทศ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (1 ก.พ.) เป็นแรกที่หลักทรัพย์บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค หลังพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน หลังปฏิบัติตามข้อกำหนดของการพ้นเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว

ทั้งนี้การกลับเข้ามาซื้อขายวันแรกจะไม่มีกำหนดราคาสูงสุดและต่ำสุด ขณะที่ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของ PICNI ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2561 ที่ราคา 0.21 บาทต่อหุ้น

สำหรับ WP นั้นเดิมคือ “บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” หรือ “PICNI” ซึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง PICNI และ บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด (WG) เมื่อปี 2557 โดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุน PICNI นำทุนใหม่เข้ามาฟื้นฟูกิจการ และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 83% ของทุนจดทะเบียนใน PICNI ปัจจุบันประกอบธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เวิลด์แก๊ส”

โดยมีผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารงาน (Strategic Shareholders) ของ WP อาทิ กลุ่มศรีวัฒนประภา ของคิงเพาเวอร์, กลุ่มวิไลลักษณ์ ของสามารถ คอร์ปอเรชั่น, หรือกลุ่มนายชัชวาล เจียรวนนท์ เป็นต้น รวม 7 ราย นำหุ้นรวมกัน 285,175,000 หุ้น (ร้อยละ 55 ของทุนชำระแล้ว 518.50 ล้านบาท) ได้ให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าจะไม่นำหลักทรัพย์ดังกล่าวของตนออกขายภายใน 1 ปี (Silent Period) นับแต่วันที่หลักทรัพย์ของ WP กลับมาซื้อขาย ทั้งนี้ได้รับการผ่อนผันให้เมื่อครบกำหนด 6 เดือน สามารถทยอยขายหลักทรัพย์ดังกล่าวได้ในจำนวนร้อยละ 25 ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขาย

ขณะเดียวกัน ได้ลดความเสี่ยงจากผลกระทบราคาน้ำมัน และการลอยตัวก๊าซ LPG โดยได้วางแผนกระจายการลงทุนใน 5 สายธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจ และให้ WP เป็นบริษัทพลังงานครบวงจร สร้างรายได้ที่เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ด้าน นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง ประธานกรรมการบริหาร และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WP เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ.61 เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมีความแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัดจากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานงวดปี 2559 เท่ากับ 36 ล้านบาท  และงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2560 เท่ากับ 108 ล้านบาท  มีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 เท่ากับ 675 ล้านบาท

รวมทั้งโครงสร้างทางธุรกิจมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะด้านฐานเงินทุน ผู้บริหารและบุคลากรในองค์กรมีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจมาเป็นเวลานาน ซึ่งที่ผ่านมาทีมผู้บริหาร มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะบริหารกิจการให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจร

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ WP มีแผนสร้างคลังกระจายสินค้าแห่งใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีคลังกระจายสินค้า อยู่จำนวนทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่อำเภอบางปะกง แบ่งเป็น 2 เฟส (อยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มอีก 1 เฟส),จังหวัดขอนแก่น ที่อำเภอบ้านแฮด  1 แห่ง และที่อำเภอท่าพระ 1 แห่ง,จังหวัดสมุทรสงคราม ที่อำเภอบางจะเกร็ง 1 แห่ง และที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง 1 แห่ง

นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น อาทิ เมียนมาร์ และลาว ที่ยังมีความต้องการใช้ก๊าซและตลาดยังเติบโตได้อีกมาก โดยนโยบายของบริษัท ต้องการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมฐานลูกค้าทุกภาคธุรกิจ ได้แก่ สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โรงบรรจุก๊าซ ร้านค้าก๊าซ กลุ่มลูกค้าพาณิชยกรรม คือ โรงแรม และภัตตาคารต่างๆ และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม โรงงานต่างๆ

“WP เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่าย LPG ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เวิลด์แก๊ส” ที่โดดเด่นด้วยระบบการบริหารจัดการที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในทุกระดับ และมีเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพจนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทุกภาคธุรกิจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จึงทำให้ผลประกอบการกลับมามีกำไรสุทธิได้อย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจของบริษัทนับต่อจากนี้ จะยังคงขยายตัวได้อย่างมีศักยภาพ

โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ ความต้องการใช้ LPG ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะทำให้ตลาดก๊าซ LPG กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าจากแผนการดำเนินงานปัจจุบัน และในอนาคตของบริษัทจะนำมาซึ่งความสำเร็จที่มั่นคง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น และลูกค้าโดยรวมของ WP “นายกนกศักดิ์ กล่าว

ส่วน นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ให้ราคาเป้าหมาย 8.50 บาทต่อหุ้น (EV/EBITDA 12x) โดยปัจจุบัน WP เป็นผู้ค้าก๊าซ LPG แบรนด์ “World Gas” มีส่วนแบ่งตลาด 21% เป็นอันดับ 3 รองจาก PTT และ SGP

ทั้งนี้การเติบโตของการใช้ LPG ในประเทศอาจไม่สูงนักเนื่องจากการใช้งานในภาคขนส่งมีโอกาสลดลง แต่จะชดเชยด้วยภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม ซึ่ง WP พึ่งพาลูกค้าสองกลุ่มนี้เกือบ 60% ของยอดขาย แต่โอกาสในตลาดต่างประเทศมีอีกมากมาย ส่งผลให้คาดกำไรสุทธิปี 60 โต 213.6% ส่วนปี 61 โต 20.5% และปี 62 โต 7.7%

ด้าน นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ให้ราคาเป้าหมาย WP ปี 2561 ที่ 8.50 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่า WP จะมีรายได้ปี 2560 ที่ 1.51 หมื่นล้านบาท และปี 2561 ที่ 1.54 หมื่นล้านบาท ขณะที่คาดการณ์กำไรสุทธิสำหรับปี 2560 อยู่ที่ 175 ล้านบาท โต 1,534.8% เทียบจากปีก่อน และปี 2561 อยู่ที่ 220 ล้านบาท โต 25.8% เทียบจากปีก่อน หนุนโดยความสามารถในการทำกำไรที่ดีจากทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น อีกทั้ง WP ครองส่วนแบ่งตลาดผู้ค้า LPG ในลำดับที่ 2 ของตลาดด้วยสัดส่วน 20% (รองจาก PTT ที่ครองส่วนแบ่งตลาด 38-39%)

ขณะเดียวกัน WP ยังมีแผนผลักดันขยายธุรกิจในประเทศให้มีความครบวงจรมากขึ้นทั้งในระดับต้นน้ำ กลางน้ำ และ ปลายน้ำ โดยอยู่ระหว่างศึกษาการขยายและลงทุนสถานีในธุรกิจ LPG ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการนำเข้า LPG ในอนาคต

ขณะเดียวกัน “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พบว่า สถิติในการเข้าเทรดวันแรกของหุ้น Resume Trade ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาให้กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดฯ อีกครั้ง หลังจากพ้นเหตุแห่งการเพิกถอนจำนวน 12 บริษัทนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง ดังนี้

จากตารางข้างต้นจะพบว่าราคาปิด (ก่อน Resume Trade) เทียบราคากลับมาซื้อขายวันแรกมีหุ้นที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดคือบริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DCORP ซึ่งปรับตัวขึ้นได้ถึง 5,552%

ดังนั้น เป็นที่น่าจับตาว่า ราคาหุ้น WP จะสามารถปรับตัวได้ร้อนแรงเช่นเดียวกับสถิติของหุ้น Resume Trade ที่ผ่านมาได้หรือไม่ เนื่องจากหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติให้สามารถกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกครั้งมักจะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเสมอ เพราะไม่ได้กำหนดราคาสูงสุดหรือต่ำสุด ส่งผลให้ราคาหุ้นมีความหวือหวามากกว่าปกติ

Back to top button