BRR รุกลงทุน CLMV ผุดโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ส่งขายลูกค้าภาคอุตฯญี่ปุ่น

BRR รุกลงทุน CLMV ผุดโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง ส่งขายลูกค้าภาคอุตฯญี่ปุ่น


นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนในบริษัท บุรีรัมย์กรีนเอ็นเนอร์จี จำกัด (BGE) โดยบริษัทดังกล่าวจะขยายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ในโครงการผลิตจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง หรือ Wood Pellet ใน สปป.ลาว เนื่องจากเป็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว จากปัจจัยการพัฒนาพลังงานทดแทนเพื่อลดใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

ทั้งนี้ บริษัท บุรีรัมย์กรีนเอ็นเนอร์จี จำกัด (BGE) ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท ราช-ลาว เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ราช กรุ๊ป หรือ RATCH ที่จดทะเบียนใน สปป.ลาว และ Siphandone Bolaven Development Company Limited (SPD) ร่วมกันจัดตั้ง บริษัท SIPHANDONE RATCH-LAO Company Limited ในสปป.ลาว ด้วยทุนจดทะเบียน 500 ล้านกีบ หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท โดย BGE ถือหุ้น 65% ส่วนพันธมิตรทั้ง 2 รายถือหุ้นในสัดส่วน 25% และ 10% ตามลำดับ

สำหรับโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนในครั้งนี้ จะลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง โดยมีกำลังการผลิต 80,000-100,000 ตันต่อปีในแขวงจำปาสัก สปป.ลาว โดยใช้พืชโตเร็วและพืชอื่นๆ ที่เหมาะสมในพื้นที่ เพื่อแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งที่มีคุณสมบัติค่าความชื้นต่ำและค่าความร้อนสูง สะดวกต่อการขนส่งและจัดเก็บสต๊อกวัตถุดิบ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างภายในต้นเดือนพฤษภาคม 2564 และจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2565

ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวจะเป็นฐานการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง เพื่อส่งออกให้แก่ลูกค้าภาคอุตสาหกรรมในประเทศญี่ปุ่น สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในภาคการผลิตรวมถึงเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล สอดรับนโยบายรัฐบาลญี่ปุ่นที่ผลักดันให้ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลลง อีกทั้งยังตอบสนองนโยบายการขยายการลงทุนของกลุ่ม BRR และก่อให้เกิดการสร้างงานและรายได้ให้แก่ประชาชนลาวในแขวงจำปาสัก ซึ่งจะส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีแก่บริษัทฯ อีกทางหนึ่ง

“การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน SIPHANDONE RATCH-LAO ในครั้งนี้ เป็นการผสมผสานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทั้ง 3 ฝ่าย ช่วยสร้างความเข้มแข็งในภาคการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่มีความต้องการสูงได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรามีเป้าหมายจะจำหน่ายไปยังลูกค้าภาคอุตสาหกรรมในรูปแบบสัญญาซื้อขายระยะยาวเป็นหลัก” นายอนันต์ กล่าว

Back to top button