
AOT เปิดโผ 3 แคนดิเดต MD 15 ก.ย.นี้ โชว์วิสัยทัศน์ ภารกิจใหญ่รอแก้สัญญาดิวตี้ฟรี
บมจ.ท่าอากาศยานไทย เคาะ 3 รายชื่อแคนดิเดต ชิงเก้าอี้ ผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ เตรียมให้แสดงวิสัยทัศน์ 15 ก.ย. พร้อมภารกิจใหญ่แก้สัญญาดิวตี้ฟรี–ขยายสุวรรณภูมิ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวิน แจ้งยอดสุข ประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ได้ลงนามประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ (MD) เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568
คณะกรรมการสรรหาฯ ระบุว่า ได้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสัมภาษณ์จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย 2. นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ และ 3. นายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา
ทั้งนี้ กำหนดให้ผู้มีรายชื่อดังกล่าวเข้ารับการสัมภาษณ์และนำเสนอวิสัยทัศน์ ในวันจันทร์ที่ 15 กันยายน 2568 ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ อาคารสำนักงานใหญ่ ทอท. โดยคณะกรรมการสรรหาฯ จะมีหนังสือแจ้งเวลาสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล หากผู้สมัครไม่เข้ารับการสัมภาษณ์ตามกำหนด ถือว่าสละสิทธิ์การคัดเลือกครั้งนี้
คณะกรรมการสรรหาฯ ยังระบุว่า หากภายหลังตรวจสอบพบว่าผู้สมัครรายใดขาดคุณสมบัติหรือให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง บริษัทมีสิทธิตัดสิทธิ์หรือบอกเลิกสัญญาจ้าง โดยผู้สมัครไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย และจะถูกพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายในกรณีแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่
สำหรับตัวเต็งในตำแหน่ง MD คนใหม่ของ AOT ได้แก่ น.ส.ปวีณา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กับ นายเอนก รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายงานยุทธศาสตร์ AOT โดยทั้งสองเป็นบุคลากรภายในที่มีประสบการณ์ตรงกับองค์กร ขณะที่ผู้สมัครจากภายนอกเพียงรายเดียวคือ นายพีรกันต์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ที่เข้าร่วมชิงตำแหน่งนี้
ขณะที่ภารกิจสำคัญที่รอ MD คนใหม่ของ AOT ได้แก่ การแก้ไขสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีกับบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างผู้ประกอบการ และ ทอท. โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการว่าจ้างมหาวิทยาลัยชั้นนำเป็นที่ปรึกษาเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ ยังต้องสานต่อโครงการลงทุนขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยาน อาทิ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 12,000 ล้านบาท และโครงการอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) มูลค่า 170,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเมกะโปรเจกต์ที่ต้องการการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ