“ฐากร” ยัน JAS จ่ายครบจบแน่!ลุ้นวิ่ง 5 บาทรับกระแสซื้อหุ้นคืน

“ฐากร” ยันหาก JAS จ่ายค่าเสียหายกรณีทิ้งใบอนุญาตคลื่น 900MHz ครบ 199.42 ลบ. ภายใน 15 วัน หลังจากมีมติจะหมดภาระทันที ด้านราคาหุ้น JAS มีลุ้นวิ่ง 5 บ. รับกระแสซื้อหุ้นคืน - ปลดล็อคความกังวลต่อการทิ้งใบอนุญาต


เมื่อเวลาประมาณ 10.40 น. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยผ่านรายการ ข่าวหุ้นเจาะตลาดออนเรดิโอ ทาง FM98.5 ว่า จากกรณี คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. มีมติเห็นชอบให้เรียกค่าเสียหายจาก บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด หรือ JASBB จำนวน 199.42 ล้านบาทนั้น

ทาง JASBB จะหมดสิ้นภาระรับผิดชอบต่อค่าความเสียหายจากการทิ้งใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ กับ กสทช. ทันที หากว่ามีการชำระเงินค่าเสียหายจำนวนดังกล่าวเข้ามาภายใน 15 วัน หลังจากมีมติ ส่วนประเด็นเรื่องค่าเสียโอกาสของรัฐและประชาชนจากการใช้คลื่นความถี่ นายฐากร กล่าวว่า หากบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลใบอนุญาตชุดดังกล่าวในภายหลัง สามารถเปิดใช้บริการคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ได้ภายใน วันที่ 23 มีนาคม 2561 จะไม่ถือว่า JASBB ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อค่าเสียโอกาส อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม กสทช. อาจดำเนินการเรียกเก็บค่าเสียหายจาก JASBB เพิ่มเติมได้ หากผู้ชนะประมูลรายใหม่มาชำระเงินค่าใบอนุญาตงวดแรก จำนวน 8.04 พันล้านบาท พร้อมกับยื่นหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน หรือ Bank Guarantee หลังจาก วันที่ 30 มิถุนายน 2559 เนื่องจากจำนวนเงินที่ทาง กสทช. เรียกเก็บจาก JASBB ในเบื้องต้น มีส่วนที่เป็นค่าดอกเบี้ยสำหรับการผิดนัดชำระหนี้ที่อัตรา 7.50% ของจำนวนเงินงวดแรก ซึ่งได้ทำการคำนวณไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน

โดยในทางกลับกัน กสทช. จะคืนเงินให้ JASBB ตามจำนวนวันผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลง หาก AWN มาชำระเงินและวาง Bank Guarantee ได้ทันก่อนวันเวลาดังกล่าว ซึ่งจากการคำนวณเบื้องต้น ดอกเบี้ยที่เรียกชำระตกอยู่ที่ประมาณ 1.60 ล้านบาทต่อวัน ทั้งนี้ AWN มีแนวโน้มสูงมากที่จะเข้ามาชำระเงินภายในวันดังกล่าว เนื่องจากมีความจำเป็นต้องนำคลื่นความถี่ที่ประมูลได้มารองรับลูกค้าที่ยังตกค้างอยู่ในระบบ 2G อีกกว่า 2.50 แสนเลขหมาย หลังมาตรการเยียวยาจะสิ้นสุดลงใน วันที่ 30 มิถุนายน 2559

ซึ่งกรณีนี้หมายรวมถึงว่า AWN จะต้องเปิดใช้บริการคลื่นดังกล่าวให้เร็วที่สุด หรือก่อนวันที่ 23 มีนาคม 2561 นั่นหมายถึง ทั้งภาครัฐและประชาชนจะไม่เสียโอกาสในการใช้คลื่นความถี่แต่อย่างใด

 

นอกจากนี้ นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุมกทค. ยังมีมติเห็นด้วย ว่าไม่มีข้อกำหนดใดๆที่เอาผิดกับบริษัทอื่นในเครือของจัสมินฯ ซึ่งเคยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ไปก่อนหน้านี้ (3BB, MONO29) เนี่องจากบริษัทที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวไม่ถือเป็นนิติบุคคลเดียวกัน เพราะฉะนั้น ใบอนุญาตต่างๆจึงยังมีผลใช้ต่อไป

อย่างไรก็ดี ค่าความเสียหายโดยรวมที่ JASBB ต้องรับผิดชอบต่อ กสทช. เพื่อให้ กสทช. ได้จัดเก็บและนำส่งเข้ารัฐต่อไป ถือว่า หมดสิ้นเพียงเท่านี้ ส่วนหน่วยงานอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยกตัวอย่าง ตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ก.ล.ต. หากต้องการตรวจสอบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนรับผิดชอบ ก็ถือเป็นเรื่องของหน่วยงานนั้นๆ สืบไป

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ JASBB อยู่ระหว่างการรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้น จำนวน 1.20 พันล้านหุ้น หรือคิดเป็น 16.82% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ที่ราคา 5.00 บาทต่อหุ้น หรือใช้วงเงินทั้งหมดรวม 6.00 พันล้านบาท โดยมีกำหนดเวลาในการซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 1-10 มิถุนายน 2559 และมีกำหนดส่งมอบหุ้นคืนให้แก่บริษัทและชำระเงินให้แก่ผู้ถือหุ้นใน วันที่ 13 และ 16 มิถุนายน 2559 ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์ว่า ราคาหุ้น JAS มีโอกาสปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับในปัจจุบัน จากการปลดล็อคความกังวลเรื่องภาระรับผิดชอบต่อการทิ้งใบอนุญาต ซึ่งก่อนหน้านี้ นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลกับ ค่าส่วนต่างจากราคาประมูล และ ค่าเสียโอกาสของรัฐและประชาชน มากที่สุด แต่เมื่อผลการตรวจสอบความเสียหายที่ได้ข้อสรุปออกมาตามข้างต้น จึงถือเป็นเซนทิเมนต์เชิงบวกต่อราคาหุ้น JAS ประกอบกับการรับซื้อหุ้นคืนที่ราคา 5.00 บาท ถือเป็นราคาที่สูงกว่าราคากระดาน ณ ล่าสุด ราว 7% จึงอาจส่งผลให้เกิดแรงซื้อเพิ่มเข้ามามากกว่าปกติ แม้จะเป็นการรับซื้อหุ้นคืนเพียง 16.82% เท่านั้น

Back to top button