
จับตาชายแดน “ไทย-กัมพูชา” สมช.ประชุมเช้า-เหล่าทัพถกบ่าย รัฐบาลย้ำชัดใช้สันติวิธี
สมช. ถกเช้า-เหล่าทัพประชุมบ่าย จับตาปมชายแดน “ไทย–กัมพูชา” กองทัพบก ยืนยันไม่ยิงก่อน-พร้อมรับมือทุกสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 มิ.ย.68) สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชิด หลังเกิดความตึงเครียดต่อเนื่องจากเหตุปะทะบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีรายงานว่า ทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธได้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทย
โดยช่วงเช้า เวลา 10:00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดมาตรการรับมือกรณีความตึงเครียดบริเวณพื้นที่พิพาทชายแดน หลังจากเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ได้หารือกับ พล.อ.เตีย เสฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ที่ค่ายสุรสิงหนาท จังหวัดสระแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าล่าสุด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุม สมช. ด้วยตนเอง
ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 14:00 น. ผู้นำเหล่าทัพเตรียมประชุมต่อเนื่อง ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ เพื่อประเมินความพร้อมด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และแผนการสนับสนุนรัฐบาล หากจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ
ขณะเดียวกัน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีเหตุปะทะล่าสุดว่า ฝ่ายไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน การตอบโต้เป็นไปตามสิทธิในการป้องกันตนเอง หลังได้รับข้อมูลข่าวสารว่า ทหารกัมพูชาติดอาวุธรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยได้ส่งกำลังลาดตระเวนเพื่อพิสูจน์ทราบ แต่กลับถูกโจมตีก่อน
ทั้งนี้ กองทัพบกระบุว่า พยายามใช้กลไกการหารือระหว่างหน่วยทหารชายแดนตามข้อตกลงที่มีอยู่ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายกัมพูชาในช่วงหลัง อีกทั้งยังพบสัญญาณการเตรียมความพร้อมทางทหารและการเคลื่อนไหวเชิงทูตจากกัมพูชาเพิ่มขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลต่อฝ่ายความมั่นคงของไทย
ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งให้ทุกหน่วยยกระดับความพร้อมสูงสุด และเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ตามแผนป้องกันประเทศ หากการเจรจาไม่สามารถยุติความตึงเครียดได้
อีกด้านหนึ่ง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้รวมตัวชุมนุมบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง เพื่อแสดงพลังรักชาติและส่งสัญญาณถึงรัฐบาลกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อยโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าประจำการในพื้นที่
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากหลายฝ่ายในสังคมขณะนี้ รัฐบาล นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงยืนยันจุดยืนในการใช้ “สันติวิธี” เป็นแนวทางหลักในการคลี่คลายความขัดแย้ง โดยแถลงการณ์ล่าสุดระบุว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 และจะยังคงเดินหน้าใช้ช่องทางเจรจาระดับทวิภาคีผ่าน “คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม” (JBC) ซึ่งเป็นกลไกที่ทั้งสองประเทศให้การยอมรับ ในการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี