“อนุทิน” จี้ “พิพัฒน์” เร่งเคลียร์ปม สปส. ซื้อ “SKYY9” หลังผลสอบชี้ราคาสูงเกินจริง

สะพัด! รองนายกฯ “อนุทิน” สั่ง “พิพัฒน์” รมว.แรงงาน เร่งเคลียร์ปม สำนักงานประกันสังคมใช้งบผู้ประกันตนซื้ออาคาร “SKYY9” 7 พันล้าน หลังผลสอบชี้ราคาสูงเกินจริง


วันนี้ (12 มิ.ย.68) สื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่เอกสารรายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานประกันสังคม ลงทุนในกองทรัสต์เงินร่วมลงทุน (Private Equity Trust) ภายใต้ชื่อ Prime Asset Private Equity Trust โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ลงนามส่งถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย / ภาพจากกระทรวงมหาดไทย

ในเอกสารดังกล่าว ปรากฏลายมือและลายเซ็นของนายอนุทิน กำกับข้อความถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานประกันสังคม โดยสั่งให้ “เพื่อทราบและให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด” พร้อมกำชับให้รายงานความคืบหน้าทุกขั้นตอน และให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด โดยคำนึงและรักษาประโยชน์ของราชการเป็นสำคัญ

ก่อนหน้านี้ นายอนุทินได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานประกันสังคม กรณีลงทุนซื้ออาคาร SKYY9 มูลค่า 7,000 ล้านบาท หลังจากที่นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยว่า ราคาตลาดของอาคารดังกล่าวน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท

แหล่งข่าวระบุว่า คณะกรรมการฯ ได้จัดทำรายงานผลสอบเสร็จสิ้นและเสนอให้นายอนุทินเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 โดยผลวิเคราะห์ราคาประเมินอาคาร SKYY9 ระบุว่า มูลค่าตลาดในช่วงเวลาดังกล่าวควรอยู่ในช่วงประมาณ 3,428 – 3,863 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาซื้อจริง

รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน /  ภาพจาก รักชนก ศรีนอก – Rukchanok Srinork

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 นางสาวรักชนก ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นต่อผลสอบว่า เป็นการยืนยันข้อสงสัยที่ตนและทีมเคยตั้งข้อสังเกตว่า ราคาซื้อขายอาคารสูงกว่าความเป็นจริง พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบต่อการดำเนินการครั้งนี้ ทั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่เป็นผู้เสนอทรัพย์สิน การตั้งทรัสต์ ตลอดจนบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง

พร้อมตั้งคำถามว่า หน่วยงานกำกับจะมีท่าทีอย่างไรต่อการประเมินราคาที่อาจขัดหลักธรรมาภิบาล พร้อมเรียกร้องให้คณะกรรมการลงทุนของสำนักงานประกันสังคมเปิดเผยบันทึกการประชุม รวมถึงพิจารณาความรับผิดชอบของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

“ทีนี้ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รับผิดชอบยังไง? บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน MFC ตัวตั้งตัวตีเสนอตึกและหาคนมาตีราคา พร้อมตั้งทรัสต์ ดูแลจนจบกระบวนการ จะลอยตัวเนียนๆ ไปแบบนี้ไหม? ก.ล.ต. จะทำอะไรกับ บริษัทที่ประเมินตัวเลขเวอร์ ๆ ไร้ธรรมาภิบาลหรือไม่? ต้องให้ไปชี้นิ้วบอกทีละเจ้าอีกไหม? บริษัทรับประเมินถ้าทำงานตรงไปตรงมาจริง อย่ากลัว ออกมาแถลงทีละบริษัทตรง ๆ ไปเลยว่า ยืนยันความบริสุทธิ์ ทำงานตรงไปตรงมา และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่จะขอข้อมูล ส่วนบริษัทไหนที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ก.ล.ต. รออะไร?” สส.รักชนก ระบุตอนหนึ่งในโพสต์ดังกล่าว

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้นายอนุทิน และปลัดกระทรวงมหาดไทย แสดงความจริงจังในการดำเนินคดี หากพบการกระทำทุจริต โดยระบุว่า “ดิฉันอยากเห็นคนถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริต ดิฉันอยากเห็นคนที่ตอดกินเงินของผู้ประกันตนออกจากราชการ ดิฉันอยากเห็นคนติดคุก ถ้าท่านเอาจริงไม่มีอะไรเกินอำนาจบารมีที่ท่านจะจัดการได้ แล้วดิฉัน รักชนก ศรีนอก จะจดจำคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะคนจริงที่น่านับถือ”

สส.รักชนก ระบุทิ้งท้ายว่า ปล. บอกไปทุกคนอาจจะไม่เชื่อนะคะ แต่ถ้าเราไม่มาเปิดเผยเรื่องตึก SKYY9 ป่านนี้ผู้ประกันตนคงได้เป็นเจ้าของตึกเพิ่มอีกหนึ่งถึงสองตึกไปแล้ว เพราะมีคนเค้าเตรียมกันไว้แล้ว”

พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน / ภาพจากกระทรวงแรงงาน

วันที่ 13 มิถุนายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงจุดยืนกรณีการลงทุนของสำนักงานประกันสังคม ในกองทรัสต์ที่เกี่ยวข้องกับอาคาร Skyy9 โดยระบุว่า กระทรวงฯ จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสตามขั้นตอน พร้อมยืนยันจะไม่เพิกเฉยต่อคำร้องเรียนที่ได้รับจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหนังสือส่งเรื่องอย่างเป็นทางการ

“แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในรัฐบาลก่อน แต่ในฐานะรัฐมนตรีแรงงานคนปัจจุบัน ผมมีหน้าที่ต้องตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ประกันตนทุกคน” นายพิพัฒน์กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงอยู่ระหว่างจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดใหม่ โดยจะเชิญบุคคลภายนอกจากหน่วยงานอื่นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ เพื่อให้การดำเนินการมีความเป็นกลาง และตรวจสอบได้

สำหรับจุดยืน 7 ข้อของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีดังนี้

  1. ตั้งกรรมการสอบใหม่ เนื่องจากกรณีเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงในอดีต จำเป็นต้องมีกรรมการภายนอกระดับสูงเพื่อความเป็นธรรม

2. ย้ำความโปร่งใส จะไม่มีการแทรกแซงหรือปกป้องผู้ใด ทุกขั้นตอนต้องตรวจสอบได้

3. ตั้งข้อสังเกตการประเมินราคา มีข้อสงสัยว่าการประเมินมูลค่าอาคาร Skyy9 ใช้ข้อมูลจากแหล่งเดียวโดยไม่มีการเปรียบเทียบราคาหลายแหล่ง

4. เร่งรัดไม่ให้ล่าช้า การหาประธานกรรมการสอบชุดใหม่ถือเป็นภารกิจเร่งด่วนลำดับแรก

5. ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นภารกิจของราชการเพื่อความถูกต้อง ไม่เกี่ยวกับแรงกระเพื่อมทางการเมือง

6. ยึดหลักนิติธรรม ผู้ที่เกี่ยวข้องยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีผลสอบที่ชัดเจน

7. เปิดเผยต่อสื่อ พร้อมชี้แจงต่อสาธารณะทุกประเด็น ตั้งแต่ขั้นตอนสอบสวน ไปจนถึงความคุ้มค่าของการลงทุน

“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก และไม่ใช่แค่เรื่องในอดีต แต่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกันตนต่อระบบประกันสังคมโดยรวม ผมจะดำเนินการเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนและยุติธรรมมากที่สุด” นายพิพัฒน์กล่าวย้ำ

Back to top button