
ศาลรธน. มีมติ 8:1 รับวินิจฉัยคดี “พิเชษฐ์” ปมแทรกแซงงบ “สภา” ปี 69
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 รับคำร้องของ 121 สส. ไว้วินิจฉัย กรณีกล่าวหา “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” มีส่วนได้เสียในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 พร้อมขีดเส้นให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 21 ก.ค. นี้ โดยไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ก.ค.68) ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเรื่องที่ นายภัณฑิล น่วมเจิม และสส. รวม 121 คน ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาฯ ยื่นคำร้องเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม กรณี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ให้ความเห็นชอบ การจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3 โครงการ ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนโดยตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และกรณีสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร มีคำขอเสนอโครงการทั้ง 3 โครงการดังกล่าวอีกครั้งในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569
โดยผู้ถูกร้อง มองว่า การเสนอของบประมาณด้วยโครงการที่มีรูปแบบเดียวกันและต่อเนื่องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนในการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใด ๆ ที่มีส่วนไม่ว่าโดยตรงหรือทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง
ที่ประชุมองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติออกเป็น 2 ส่วน โดยในกรณีแรกมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ในส่วนร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ร่างฯ ดังกล่าวได้รับการพิจารณาเสร็จสิ้น และกฎหมายที่ใช้บังคับแล้ว ไม่อยู่ในขั้นตอนการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายในกระบวนการทางนิติบัญญัติ ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (7)
ส่วนการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 มีคำสั่งรับคำร้องในส่วนนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมทั้งส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้อง
เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับความเห็นของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม ให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาล ภายในวันจันทร์ ที่ 21 กรกฎาคม 2568 ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการพิจารณาวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 54 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 23
นอกจากนี้ ศาลยกคำขอกำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนมีคำวินิจฉัย กำหนดให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. และรองประธานสภาฯ โดยเห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อยู่ในระหว่างการพิจารณา และศาลยกคำขอให้ระงับการเบิกจ่ายโครงการทั้ง 3 ตามงบปี 2568 เนื่องจากได้มีคำสั่งไม่รับคำร้องในส่วนนี้แล้ว